ค้นหาข่าว

ทีมจักษุแพทย์ “รักษาโรค รักษาใจ” ให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วย

20190818-066-bydatchanee resize

“หากไม่เจ็บป่วยปางตาย ชาวบ้านโดยส่วนใหญก็คงไม่มารักษาที่โรงพยาบาลกันหรอกค่ะ” คุณพูเหวด พยาบาลของโรงพยาบาลสนามชัย แขวงอัตตะปือแบ่งปัน ดังนั้น

เวลาที่ลงพื้นที่สู่ชุมชน จึงมักจะเห็นชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเจ็บป่วยสารพัดโรค หรือไม่ก็ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่า สุขภาพร่างกายของตนไม่ปกติ แต่พวกเขายังคงอดทนต่อความเจ็บป่วย คุณพูเหวด ยังแบ่งปันต่ออีกว่า “บางคนเขาก็ไม่อยากไปหาหมอ เวลาเราแนะนำอะไรไป เขาก็จะบอกว่ากลัว คือเขากลัวว่าถ้ามาผ่าตัดแล้วมันจะไม่ดีขึ้น กลัวว่าตาจะบอด หรือมีบางคนที่เขาก็อยากมา แต่ไม่มีใครพามา เขาก็เลยไม่สะดวกที่จะมาหาหมอค่ะ ”

 

 

เมื่อทราบถึงปัญหาเหล่านี้ จิตอาสาฉือจี้จึงมุ่งมั่นตั้งใจมากยิ่งขึ้น โดยระหว่างการตรวจคัดกรองในเดือนมิถุนายนและสิงหาคมที่ผ่านมานั้น จิตอาสาได้อธิบายพูดคุยให้ชาวบ้านเข้าใจว่า การผ่าตัดต้อกระจกไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และการผ่าตัดรักษาตาในกิจกรรมรักษาพยาบาลที่ฉือจี้จัดขึ้น ไม่เพียงให้บริการผ่าตัดรักษาโรคตา หากยังให้บริการรับ-ส่ง รวมถึงบริการอาหารและที่พักฟรีตลอดการรับการรักษา ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย

 

พุดทาคาด สาวน้อยวัย 19 ปี จากเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ เริ่มมองเห็นไม่ชัดตั้งแต่ 2 ขวบ ในระหว่างตรวจคัดกรองพบว่า เธอป่วยเป็นโรคต้อกระจก แพทย์และจิตอาสาฉือจี้จึงพูดคุยและปลอบโยนอย่างใส่ใจว่า “ไม่ต้องกลัวนะ ผ่าตัดแล้วก็จะมองเห็นชัดแจ๋วเลย” ทำให้พุดทาคาดซึ่งเดิมทีไม่อยากผ่าตัดรักษาต้อกระจก ได้รวบรวมความกล้า พร้อมกับพยักหน้าตอบตกลง เธอแบ่งปันความรู้สึกในตอนนั้นว่า “รู้สึกดีใจ เพราะว่าตามันจะมองเห็นชัดแล้ว ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจว่า ผลจะเป็นยังไง จะดีหรือไม่ดีขึ้นก็ตาม หนูก็จะขอลองดูค่ะ”

 

20190817-046-bydatchanee resize

ในระหว่างที่รอผ่าตัดรักษานั้น จิตอาสาฉือจี้ คุณบังอร แซ่เผิง(ซ้าย 1) ให้กำลังใจพุดทาคาดอย่างใกล้ชิด เพื่อผ่อนคลายความกังวลต่างๆให้พวกเขา


17 ปีที่ผ่านมา พุดทาคาดต้องทนทุกข์อยู่ในโลกอันมืดมัว เมื่อได้รับการผ่าตัดรักษาจากทีมจักษุแพทย์ฟิลิปปินส์ ที่มากไปด้วยประสบการณ์ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที การผ่าตัดต้อกระจกก็แล้วเสร็จ หลังจากการผ่าตัดรักษา อาจจะยังมองเห็นมัวๆอยู่บ้าง เพราะต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกสักระยะ จึงจะมองเห็นชัดเจนขึ้น พุดทาคาดแบ่งปันความรู้สึกแห่งการรอคอยว่า “ดีใจที่เราใกล้จะมองเห็นชัดแล้ว”

 

เมื่อความทุกข์จากโรคตาถูกขจัดออกไปแล้ว ใบหน้าก็เริ่มเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มีความสุข จนสัมผัสได้ว่าสภาพจิตใจของพุดทาคาดดีขึ้นบ้าง “ฉันว่าสภาพจิตใจของเธอไม่ใช่แค่ดีขึ้นบ้าง แต่ดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ เพราะว่าในระหว่างที่นั่งรถกลับบ้าน ฉันเห็นเธอพูดคุยหัวเราะสนุกสนานกับพี่สาว ซึ่งเธอที่เราเคยเห็นแต่ก่อนจะเงียบขรึม ก้มหน้าตลอดเวลา ไม่พูดไม่คุยอะไร แต่ตอนนี้เธอพูดคุยสนุกสนาน ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข เมื่อเราได้เห็นอย่างนี้แล้ว เราจิตอาสาฉือจี้ก็พลอยดีใจตามไปด้วยค่ะ” คุณบังอร แซ่เผิง จิตอาสาฉือจี้ที่ช่วยดูแลงานแผนกรักษาตา แบ่งปันถึงความเปลี่ยนแปลงของพุดทาคาด

 

20190818-068-bydatchanee resize

                                             การให้บริการผ่าตัดรักษาตาไม่เพียงทำให้คนๆหนึ่งได้รับการรักษา ในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบที่ดีต่อคนรอบข้าง และนำมาซึ่งความสุขแก่ครอบครัว คุณพุดทาคาดและ

                                             ครอบครัวต่างชูนิ้วหัวแม่มือ เพื่อแสดงความขอบคุณที่มีต่อฉือจี้

 

การให้บริการผ่าตัดรักษาตาไม่เพียงทำให้คนๆหนึ่งได้รับการรักษา ในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบที่ดีต่อคนรอบข้าง และนำมาซึ่งความสุขแก่ครอบครัว เมื่อเห็นลูกสาวได้รับการผ่าตัดต้อกระจก และกลับบ้านอย่างปลอดภัย คุณจันทร์เพ็ง แม่ของพุดทาคาด ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง และเอ่ยคำขอบคุณกับจิตอาสาฉือจี้อยู่ตลอดเวลา คุณจันทร์เพ็งแบ่งปันความรู้สึกว่า “ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นโครงการรักษาพยาบาลไหนมาที่ที่หมู่บ้านเราเลยสักครั้ง มาวันนี้แม่ดีใจมาก เพราะโครงการนี้ทำให้ลูกสาวเดียวของแม่ได้รับการบริการผ่าตัดตา ดีมากๆค่ะ”


นี่คือหนึ่งในเรื่องราวประทับใจจากกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีที่ สปป.ลาว จะเห็นว่ากิจกรรมรักษาพยาบาล ไม่เพียงขจัดความทุกข์จากความเจ็บป่วย หากยังเป็นกำลังใจและเปิดประตูความสุขให้ชีวิตพวกเขา เช่นนี้จึงจะเรียกว่า ได้บรรลุแล้วถึงจุดประสงค์ของ “การรักษาโรค รักษาใจ”

 

20190818-069-bydatchanee resizeก่อนเดินทางกลับ คุณพุดทาคาด(ขวา 1)และคุณบังอร แซ่เผิง(ซ้าย 1) ต่างสวมกอดกันแน่น

 


เรื่อง ดรรชนี  สุรเทพ       ภาพ ดรรชนี  สุรเทพ