ค้นหาข่าว

มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยชุมชนคลองเตย

20170701-079-bylek resize

 

เพลิงไหม้ไร้ปรานีเผาวอดบ้านเรือน อาสาสมัครฉือจี้นำน้ำใจปลอบโยนผู้ประสบภัย

ในค่ำคืนอันเงียบสงัด สรรพชีวิตกำลังพักผ่อน ผู้คนกำลังหลับใหลในบ้านเรือนอันแสนอบอุ่นของตน ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะโลหะ พร้อมกับเสียงตะโกนร้องเรียกผู้คนว่า “ไฟไหม้ๆ รีบตื่นเร็วๆ รีบหนีออกมาเร็วๆๆ”

ดังกึกก้องไปทั่ว ต้นเหตุของเสียงแห่งความโกลาหลนั่นคือ ไฟไหม้อันไร้ซึ่งความปรานี ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้คนไม่ได้ตั้งตัวเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 29 มิถุนายน 2560 คุณนุชนาถ วัย 79 ปี ผู้สูงอายุซึ่งอาศัยอยู่เพียงลำพัง มักจะจุดเทียนส่องสว่างภายในบ้านเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า แต่ด้วยความไม่ระมัดระวัง จึงก่อให้เกิดไฟไหม้ดังกล่าวขึ้น และด้วยชุมชนคลองเตย 1 2 3 ซึ่งเป็นชุมชนแออัดขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ มีตรอกซอยแคบที่มักใช้สำหรับให้ผู้คนหรือรถจักรยานยนต์สัญจรไปมา เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้เช่นนี้ รถดับเพลิงจึงไม่สามารถเข้าไปยังที่เกิดเหตุได้ จึงต้องพึ่งถังดับเพลิงมาช่วยดับเพลิง พอดีทางชุมชนได้จัดเก็บถังดับเพลิงไว้จำนวนหนึ่ง แต่กว่าจะควบคุมเพลิงครั้งนี้ได้ ก็ต้องใช้ถังดับเพลิงมากเกือบ 200 ถัง อย่างไรก็ตาม เพลิงไหม้ครั้งนี้ได้เผาวอดบ้านเรือนไป 11 หลัง และคุณนุชนาถ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านต้นเพลิง ถูกไฟคลอกตามร่างกาย 40-50 % (ปัจจุบันยังรักษาตัวอยู่ห้องปลอดเชื้อ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์)

 

 

20170701-128-bylek resize

▲ จากสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้จะเห็นว่า ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ที่ยังไม่ถูกไฟไหม้นั้นคือบ้านของคุณนิตยา ทุมมานนท์ ซึ่งเป็นพนักงานของมูลนิธิ


ด้วยเป็นเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ผู้คนต่างก็หนีเอาชีวิตรอด ไม่ได้นำสิ่งของอะไรติดตัวออกมาเลย ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านจึงถูกเผาวอดไปในพริบตา ทรัพย์สินที่ได้จากการมุ่งมั่นตรากตรำมาหลายปี กลายเป็นขี้เถ้าเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ ใบหน้าผู้ประสบภัยเต็มไปด้วยความกังวล เกรงว่าการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยใหม่ในอนาคตจะกินเวลายาวนาน ดังนั้น คุณสมชาย อภิรักษ์ฤานนท์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกรในกิจกรรมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ จึงได้แบ่งปันถึงเรื่องราวความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ประสบภัยเผชิญกับความเป็นจริงอย่างกล้าหาญ และแม้ว่าทุกคนจะสูญเสียทรัพย์สินไป แต่ว่าทุกคนก็ยังมีชีวิตอยู่ จึงต้องให้ความหวังกับตนเองให้มาก เมื่อเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ผ่านไปแล้ว การฟื้นฟูสร้างบ้านใหม่อาจจะต้องพบกับความยากลำบาก แต่ก็ขอให้ทุกคนอย่าได้ยอมแพ้ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่ง ชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้น และกลับมาเป็นผู้ให้ นำน้ำใจตนช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

 

20170701-015-bylek resize

▲ คุณสมชาย อภิรักษ์ฤานน์ แบ่งปันถึงการไม่เที่ยงแท้ของชีวิต และให้กำลังใจผู้ประสบภัยเผชิญกับความเป็นจริงอย่างกล้าหาญ อีกทั้งแนะนำแนวคิดกระปุกออมบุญของฉือจี้ เชิญชวนให้ทุกคนร่วมบริจาคน้ำใจ ทำบุญก่อกุศล ช่วยเหลือผู้ที่ลำบากกว่าตนต่อไป


สังคมไทยเปี่ยมไปด้วยผู้ที่มีน้ำใจไมตรีงาม เมื่อทราบข่าวเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิ ผู้ใจบุญทั้งหลาย ต่างก็นำข้าวของเครื่องใช้หลากหลายชนิด มามอบให้ผู้ประสบภัย หลังจากที่อาสาสมัครลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ความเสียหายแล้ว จึงเดินทางมาจัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัย มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินครอบครัวละ 4,000 บาท พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ ให้กำลังครอบครัวผู้ประสบภัย ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว มีบางส่วนไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง และจากรายงานการสำรวจของหน่วยงานภาครัฐทราบว่า หลังจากผ่านพ้นช่วงระยะนี้ไปแล้ว ก็เริ่มสามารถเข้าไปฟื้นฟูที่อยู่อาศัยหรือสร้างบ้านเรือนใหม่ได้

 

20170701-019-bylek resize

▲ แม้จะอยู่ในช่วงมืดมนของชีวิต ทว่าผู้ประสบภัยยังคงยินดีบริจาคน้ำใจตน ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ให้

 

คุณปริศนา หนึ่งในผู้ประสบภัยในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นอาสาสมัครชุมชนของฉือจี้แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นกรรมการชุมชนอีกด้วย ด้วยรู้จักมูลนิธิพุทธฉือจี้มานานหลายปี และเห็นด้วยกับแนวคิดพุทธฉือจี้ จึงนำแนวคิดของพุทธฉือจี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้ คอยช่วยเหลือผู้คนในชุมชน ในขณะที่อาสาสมัครเข้าไปเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยนั้น ได้เห็นถึงภาพบ้านของคุณปริศนาซึ่งเดิมทีทำด้วยไม้ ถูกไฟไหม้ไม่เหลือแม้แต่ซากปรักหักพัง ระหว่างที่อาสาสมัครพูดคุยให้กำลังใจ ยังสัมผัสได้ว่า คุณปริศนารู้สึกเศร้าเสียใจมากเพียงใด ทว่า ด้วยบทบาทที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการชุมชน คุณปริศนาจึงต้องเข้มแข็ง เพื่อเป็นเสาหลักให้ครอบครัว และเป็นที่พึ่งพิงให้กับคนในชุมชน คุณปริศนา แบ่งปันว่า “วันนี้พี่ก็เป็นคนที่เดือดร้อนค่ะ วันแรกหลังไฟไหม้คือมันเศร้ามาก เศร้าในใจอยู่คนเดียว แต่ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนกับว่า สิ่งที่เราเคยให้กับสังคม มันย้อนคืนสู่เราหมดเลยในตอนนี้”

 

20170701-042-bylek resize

▲ อาสาสมัครให้กำลังใจผู้ประสบภัยมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีพลังสู้ชีวิตผ่านการแสดงภาษามือประกอบเพลง “ครอบครัวเดียวกัน”


การพูดคุยให้กำลังใจจากอาสาสมัครนั้น ก็ทำให้คุณปริศนารู้สึกดีขึ้นไม่น้อย อาสาสมัครยังคงจะให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากผู้ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือ อาสาสมัครก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที นอกจากนี้แล้ว ยังโชคดีที่บ้านของคุณนิตยา ทุมมานนท์ พนักงานมูลนิธิฯ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่เกิดเหตุไม่ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปด้วย แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ก็ทำให้คุณนิตยาตระหนักตกใจไม่น้อย

 

20170701-158-bylek resize

▲ มอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้ผู้ประสบภัย


กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ มีผู้ได้รับความช่วยเหลือ 24 ครอบครัว ภายในกิจกรรม อาสาสมัครอ่านสาส์นแสดงความห่วงใยจากท่านธรรมาจารย์ แสดงภาษามือ “ครอบครัวเดียวกัน”ให้กำลังใจผู้ประสบภัย และร่วมกันอธิษฐานในช่วงท้ายกิจกรรม แม้กิจกรรมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะสิ้นสุดลงแล้ว ทว่า การดูแลผู้คนในชุมชนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และขออวยพรให้ผู้ประสบภัยทุกคน ฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ และที่อยู่อาศัยของตนได้ในเร็ววัน อาสาสมัครฉือจี้ คุณกวอโยว่ แบ่งปันว่า “ในชุมชนนี้มีหลายคนเป็นอาสาสมัครชุมชนของฉือจี้ วันนี้อาสาสมัครฉือจี้ก็ได้นำเงินช่วยเหลือมามอบให้ผู้ประสบภัย ครอบครัวละ 4,000 บาท พวกเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถช่วยฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ให้พวกเขาได้บ้าง”

 

20170701-053-bylek resize

▲ ทุกคนร่วมอธิษฐาน ขอให้โลกนี้ปราศจากภัยพิบัติ

 

20170701-070-bylek resize 

▲ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิพุทธฉือจี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และปลอบโยนจิตใจให้ผู้ประสบภัยได้


เรื่อง จิ้นหรงกาง , ดรรชนี สุระเทพ     ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี