ค้นหาข่าว

ฉือจี้มอบถุงยังชีพสู้ภัยโควิด แท็กซี่สะพานบุญตอบแทนสังคม

00

แม้ในปัจจุบันจะเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามา ทว่าความเป็นอยู่ของผู้ขับแท็กซี่ก็ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟู ดังนั้น ฉือจี้จึงได้ร่วมมือกับสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคม ดำเนินการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ขับแท็กซี่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จำนวน 4 รอบ รวมช่วยเหลือ 1,319 ครอบครัว โดยหวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ทุกคนสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้


 

การต้องปรับเปลี่ยนชีวิตวิถีใหม่เพื่ออยู่ร่วมกับโควิด ทำให้พฤติกรรมผู้โดยสารส่วนใหญ่ เปลี่ยนไปใช้งานแอปพลิเคชันเรียกรถโดยสารมากขึ้น ทว่าขณะเดียวกันผู้ขับขี่แท็กซี่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้สูงอายุหรือไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีดังกล่าว จึงมีรายได้ลดน้อยถอยลง ขาดเงินสำหรับจ่ายค่างวด จนรถซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินต้องถูกยึดไป

01

 จิตอาสาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันบรรจุหน้ากากอนามัยลงในถุงกระดาษ เพื่อเตรียมมอบช่วยเหลือผู้ขับแท็กซี่

 

คุณธนภัทร เพียรดี รักษาการณ์นายกสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคม กล่าวว่า ผู้มารับถุงยังชีพในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายขอบของแท็กซี่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างมาก “เพราะว่าไม่มีผู้โดยสารโบกข้างทาง แล้วพวกเขาก็ไม่มีแอปที่ผู้โดยสารเรียกมารับ บางคนก็ลำบากจนต้องปล่อยให้รถโดนยึดไป หลังจากเปิดประเทศ เพื่อจะกลับมาขับแท็กซี่ทำมาหากินอีกครั้ง พวกเขาจึงต้องไปเช่ารถกันมา” คุณธนภัทรบอกเล่าความเดือดร้อนของผู้ขับแท็กซี่ และขอบคุณที่ฉือจี้มองเห็นความทุกข์ยากดังกล่าว ด้วยการมอบข้าวสารรวมถึงถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา

02

 จิตอาสาแท็กซี่ช่วยอำนวยความสะดวกโบกรถให้เข้าสู่เต็นท์ลงทะเบียนรับถุงยังชีพท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย

 

04

 จิตอาสาช่วยกันตรวจสอบสิทธิ์การลงทะเบียนรับถุงยังชีพให้กับผู้ขับแท็กซี่

 

03

จิตอาสาช่วยกันติดสติ๊กเกอร์วาทะจิ้งซือบนกระจกรถให้กับแท็กซี่

 

ลมฝนไม่อาจกั้น ส่งมอบถุงยังชีพ
ในการมอบถุงยังชีพรอบแรกของเดือนมิถุนายนนั้น บังเอิญมีฝนตกหนักหลายครั้ง จนพื้นที่โดยรอบเจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ท่วมขัง ทว่าจิตอาสาทุกคนยังคงยืนหยัดในภารกิจไม่เปลี่ยนแปลง บ้างก็สวมเสื้อกันฝน บ้างก็ถือร่มไว้ในมือ พร้อมกับขับเคลื่อนงานของตัวเองต่อไป ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร ถุงยังชีพที่เต็มไปด้วยอาหารแห้งและหน้ากากอนามัย ยังคงถูกส่งถึงมือของผู้ขับแท็กซี่ผ่านรูปแบบไดรฟ์ทรูอย่างไม่ขาดสาย

“ฝนตกทำให้ลำบากนิดหนึ่ง แต่ใจมีความสุขก็เลยไม่เหนื่อย แม้เสื้อผ้าจะเปียกก็ไม่เป็นไรค่ะ” จิตอาสาฉือจี้ คุณเหอกุ้ยซิ่งถือร่มไว้ในมือ ก่อนจะบอกเล่าถึงความรู้สึกอิ่มเอมใจที่ได้มาร่วมทำงานในครั้งนี้

จิตอาสาฉือจี้ คุณหลันอวี้ฮุ่ยบอกเล่าถึงความปีติที่ได้มาร่วมเสียสละในการมอบถุงยังชีพแก่ผู้ขับแท็กซี่ ในวันที่ฝนตกหนักว่า “ปกติที่เมืองไทย ถ้าฝนตกหนัก แป๊ปหนึ่งก็จะหยุดแล้ว วันนี้ดีใจที่ได้มาร่วมช่วยเหลือพี่ๆ แท็กซี่ค่ะ” ขณะที่ดำเนินการมอบสิ่งของ คุณหลันอวี้ฮุ่ยก็ไม่ลืมที่จะชักชวนผู้ขับขี่แท็กซี่ให้ร่วมเป็นสะพานบุญโดยกล่าวว่า “ได้ติดกระปุกออมบุญในรถแล้วใช่ไหมคะ วันหน้าถ้าผ่านมาทางนี้ สามารถนำกลับมาร่วมบริจาคช่วยเหลือคนอื่นต่อไปได้ตลอดเลยนะคะ”

จิตอาสาฉือจี้ไม่เพียงส่งมอบสิ่งของที่เป็นรูปธรรมเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากให้กับผู้ขับแท็กซี่ แต่ขณะเดียวกันยังได้ถ่ายทอดแนวคิดที่เป็นนามธรรม เพื่อสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้จุดประกายเมตตาจิต ส่งมอบความรักให้กับสังคมต่อไป

05

 จิตอาสาฉือจี้อธิบายแนวคิดกระปุกออมบุญ "ออมเงินน้อย สร้างบุญใหญ่" ให้กับผู้ขับแท็กซี่

 

06 

แม้ฝนจะตกหนักจนน้ำเจิ่งนองแต่ภารกิจมอบถุงยังชีพยังคงดำเนินต่อไป

 

หลังจากท้องฟ้ากลับมาสดใส ทุกคนต่างก็ทำงานแข่งกับเวลาเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ จากนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฝนที่กำลังจะตกลงมาอีกครั้ง สาดกระเซ็นโดนสิ่งของจนได้รับความเสียหาย จิตอาสาจึงได้ใช้ความคิดปรับเปลี่ยนสถานที่มอบสิ่งของตามสถานการณ์เป็นเต็นท์ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างแทน เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำฝนอีก ขณะเดียวกันก็สามารถมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ขับแท็กซี่ให้ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้

07

 หลังจากฝนเริ่มซา จิตอาสาต่างร่วมแรงร่วมใจกันจัดการกับสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำที่เจิ่งนอง

 

08

หลังจากฝนเริ่มซา จิตอาสาทำงานแข่งกับเวลา ใช้อุปกรณ์ทุกอย่างที่หามาได้เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขัง

 

09

 เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของโดนน้ำฝนเสียหาย จิตอาสาฉือจี้รีบปรับเปลี่ยนแผนผังสถานที่การมอบสิ่งของใหม่ทันที

 

10

จิตอาสาทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันขนย้ายข้าวสารและถุงยังชีพเข้ามายังเต็นท์ใหญ่ด้านข้าง

 

11

 หลังจากนั้น การมอบถุงยังชีพก็ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นภายใต้เต็นท์ใหญ่สีขาวที่อยู่ด้านข้าง

 

12

คุณธนภัทร เพียรดี รักษาการณ์นายกสภาวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะไทยสมาคม (คนแรกจากซ้าย) ร่วมนำกระปุกออมบุญ มาบริจาคสมทบกองทุนการกุศลกับฉือจี้

 

มอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉิน ความช่วยเหลือทันท่วงที

คุณสิทธิชัยหนึ่งในผู้ขับรถแท็กซี่ ซึ่งเพิ่งตรวจพบว่าเป็นโรคไตระยะที่ 5 เมื่อเก้าเดือนก่อน หลังจากอยู่โรงพยาบาลนานหนึ่งเดือน ก็ต้องกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านและรับการอบรมวิธีการฟอกไตด้วยตัวเองจากบุคลากรทางการแพทย์ นับจากนั้นเป็นต้นมา ก็ต้องฟอกไตวันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง จนส่งผลกระทบกับระยะเวลาในการออกไปขับรถแท็กซี่เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว

คุณสิทธิชัยเล่าว่า “ก่อนที่ผมจะล้มป่วย ผมจะออกไปขับแท็กซี่นั่งอยู่ในรถวันละเกือบ 16 ชม. แต่ตอนนี้เหลือแค่วันละ 7 ชม. เท่านั้นครับ” เมื่อมีเวลาในการทำงานน้อยลง รายได้ก็ลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565 ฉือจี้จึงได้มอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือเป็นกำลังใจแก่คุณสิทธิชัยเป็นการเบื้องต้น ขอให้การดูแลรักษาสุขภาพในวันข้างหน้าดำเนินไปอย่างราบรื่น

13

นอกจากมอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉิน จิตอาสาฉือจี้ยังมอบผงธัญพืชจิ้งซือแทนคำอวยพรให้กับคุณสิทธิชัย

 

14

จิตอาสาฉือจี้เดินทางไปเยี่ยมบ้านและมอบกำลังใจให้กับคุณสิทธิชัย

 

แท็กซี่ร่วมเป็นสะพานบุญ ส่งต่อความรักตอบแทนสังคม
กระจกรถมีสติกเกอร์วาทะจิ้งซือติดอยู่ ในรถก็แขวนกระปุกออมบุญเอาไว้ จากนั้นจิตอาสาฉือจี้ก็ค่อยๆ บอกเล่าถึงแนวคิดการออมเงินน้อยสร้างบุญใหญ่ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ขับแท็กซี่ทุกคน ด้วยการร่วมเป็นสะพานบุญ นำหยาดหยดธารน้ำใจที่ตนเองและผู้โดยสารร่วมหยอดลงในกระปุก มาบริจาคกลับคืนให้ฉือจี้เพื่อนำไปช่วยเหลือดูแลสังคมต่อไป

ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยได้ร่วมมือกับสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทย และ ชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทย ดำเนินการมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ขับแท็กซี่มาอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้รับกระปุกออมบุญฉือจี้ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุณรุ่ง เฉลิมบงกช หนึ่งในผู้ขับแท็กซี่ที่นำกระปุกมาบริจาคแก่ฉือจี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ได้บอกเล่าถึงความอิ่มเอมใจที่ได้ร่วมเป็นสะพานบุญของตนเองว่า “ทั้งผู้โดยสารและตัวผมเองต่างช่วยกันหยอดตามกำลังความสามารถ เพื่อเป็นสะพานบุญร่วมกัน ในการไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสหรือผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่าต่อไปครับ”

คุณบุญเกิด ดีล้ม ผู้ขับแท็กซี่ที่นำกระปุกออมบุญกลับมาบริจาค ได้บอกเล่าถึง “ตอนที่ผมลำบากอยู่แล้ว ก็ได้รับข้าวสาร อาหารแห้งจากฉือจี้ตรงนี้มาช่วยเหลือ จากนั้นก็มีกระปุกออมบุญให้เรากับผู้โดยสารได้ร่วมกันหยอด เพื่อจะได้นำน้ำใจตรงนี้ไปสานต่อกับคนที่อาจจะลำบากมากกว่าเรา เป็นการช่วยเหลือต่อๆ กันไปครับ”

เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ร่วมรังสรรค์สร้างบุญกุศล ให้ธารน้ำใจทุกหยาดหยด เป็นพลังช่วยเหลือผู้คนในสังคม

 

15

ผู้ขับแท็กซี่ร่วมเป็นสะพานบุญ ส่งมอบธารน้ำใจตอบแทนความรักของสังคมผ่านกระปุกออมบุญฉือจี้

 


                                                                                                                                            เรื่อง  บุษรา สมบัติ     ภาพ  พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, ดรรชนี สุระเทพ