ช่วงเวลาแห่งการอำลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ บรรยากาศทั้งภายในและภายนอกของสถานธรรมจิ้งซือถูกตกแต่งเป็นพิเศษ โคมแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลและความโชคดีถูกแขวนขึ้นสูง ส่งต่อคำอวยพรให้แก่ผู้ที่ก้าวเข้าสู่สถานธรรมจิ้งซือ ทุกคนสัมผัสได้ถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นจริงใจจากอาสาสมัครฉือจี้ ในวันที่ 19 มกราคม 2568 ทั้งผู้มีจิตศรัทธาและอาสาสมัครเกือบ 320 คน มารวมตัวกันเพื่อย้อนประวัติศาสตร์ปี 2567 พร้อมรับฟังโอวาทและคำอวยพรจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ร่วมอธิษฐานให้ในปีใหม่นี้ ทุกคนมีแต่ความสงบสุข โลกปลอดภัยจากภัยพิบัติ
ความรักยิ่งใหญ่ทั่วทั้งโลกา
ภายในงานยังได้ฉายวิดีโอ “ย้อนรอยประวัติศาสตร์ฉือจี้ประเทศไทย” ปี 2568 ที่แสดงให้เห็นถึงการลงมือปฏิบัติด้วยศรัทธาของเหล่าอาสาสมัคร ที่ยึดมั่นในศรัทธา “เมื่อมีรักเมตตาย่อมไร้ความหวาดกลัว” พวกเขาเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย ช่วยฟื้นฟูบ้านเรือน และนำความหวังกลับคืนสู่ชีวิตผู้คน
คุณวรัญญู ชัยเฉลิมมงคล ซึ่งเข้าร่วมพิธีอวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่เป็นครั้งแรก บอกเล่าความรู้สึกว่า “วันนี้ทำให้ผมเข้าใจแนวคิดและจิตวิญญาณของอาสาสมัครฉือจี้ได้ลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้ผมยิ่งศรัทธา และอยากร่วมทำความดีมากยิ่งขึ้น ความรักนั้นมันสามารถส่งต่อให้กับทุกคนทุกเพศทุกวัย ทุกชาติทุกศาสนา ซึ่งฉือจี้ก็ทำเป็นตัวอย่างให้เราได้เห็นอยู่แล้วครับ”
เภสัชกรจากคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ คุณปัญนันต์ฉัตร ศรียาภัย ก็กล่าวด้วยความชื่นชมว่า “ฉือจี้ทุ่มเททำงานช่วยเหลือทุกคนบนโลกนี้ ไม่ว่าจะในเรื่องของการรักษาพยาบาล การศึกษา หรือเวลามีภัยพิบัติและอุทกภัยต่างๆ ฉือจี้ก็ไปช่วยทุกประเทศ ทุกมุมโลกเวลามีเกิดภัยพิบัติ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจ และมั่นใจว่าที่ใดมีฉือจี้ ที่นั่นยอมมีความรักอันยิ่งใหญ่”
คุณจงกั๋วโซง นักธุรกิจผู้มีเมตตา ไม่เพียงบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนฉือจี้ ยังส่งเสริมให้ครอบครัวและพนักงานร่วมกิจกรรมอาสาสมัครต่าง ๆ อย่างกระตือรือร้น โดยกล่าวว่า “ถ้าเป็นสิ่งที่ดี ก็ต้องทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการเก็บเหรียญเล็ก ๆ ไว้ พอเวลาผ่านไปมันจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ ความดีเล็ก ๆ จะกลายเป็นความเมตตาอันยิ่งใหญ่”
ชะล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ สร้างสังคมสงบสุข โลกปลอดจากภัยพิบัติ
เมื่อผู้ร่วมงานรับการ์ดอวยพรกุศลปัญญาแห่งปัญญา ต่างก็เผยรอยยิ้มแห่งความปีติและซาบซึ้งออกมา การ์ดอวยพรนี้ไม่เพียงแต่เป็นคำอวยพรจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน แต่ยังเป็นสิ่งแทนปัญญาและความเมตตา กำชับให้พวกเราเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการทำความดีโดยใช้สติปัญญา
คุณเอ็ดเวิร์ด เฉิน ซึ่งเริ่มต้นรู้จักฉือจี้เมื่อห้าปีก่อน ด้วยจิตใจที่อยากช่วยเหลือผู้อื่น เขากล่าวว่า “ตอนแรกผมแค่อยากมาช่วยงานอาสาสมัครทั่วไป แต่ยิ่งมีส่วนร่วมมากขึ้น กลับพบว่าในระหว่างที่ให้ ผมเองก็ได้รับความสุขในจิตใจมากขึ้นเช่นกัน จึงตัดสินใจศึกษาฉือจี้อย่างลึกซึ้ง และในที่สุดก็ได้รับการรับรองเป็นอาสาสมัครฉือจี้อย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา ในปีใหม่นี้ ผมตั้งปณิธานว่า หากเราสามารถเริ่มเปลี่ยนแปลงจากตัวเราเอง นำหลักพุทธธรรมเข้าสู่ชีวิตประจำวันได้ และก้าวออกมาไปช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็จะสามารถทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณแห่งความเท่าเทียมในพุทธธรรม นี่ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งครับ”
ในงานวันนี้มีผู้ขับขี่แท็กซี่สาธารณะกว่า 100 คน นำกระปุกออมบุญ กลับมาบริจาคให้ฉือจี้ด้วยความขอบคุณและความเมตตา ย้อนกลับไปในช่วงที่โควิดระบาดรุนแรงในปี 2564 พวกเขาเคยได้รับความช่วยเหลือจากฉือจี้ และเมล็ดพันธุ์แห่งความดีได้ถูกหว่านลงในหัวใจ นับตั้งแต่นั้นมา พวกเขาจึงได้แสดงความขอบคุณสังคม ด้วยการร่วมทำดี ติดตั้งกระปุกออมบุญไว้ในรถแท็กซี่ของตนเอง ไม่เพียงแต่บริจาคด้วยตัวเอง แต่ยังเชิญชวนผู้โดยสารร่วมทำบุญพร้อมกัน
คุณขนิษฐา อ่ำมีเชาว์ ผู้ขับขี่แท็กซี่สาธารณะกล่าวถึงความตั้งใจที่นำกระปุกออมบุญมาร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปว่า “ขอให้บุญกุศลนี้ส่งผลไปช่วยทุกท่านที่กำลังเผชิญความลำบาก เราสามารถบริจาคไปทางฉือจี้ เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากให้มากยิ่งขึ้น”
เมื่อกิจกรรมอวยพรส่งท้ายปีใกล้จะจบลง ทุกคนต่างจุด “ดวงประทีป” อธิษฐานด้วยใจบริสุทธิ์ ขอให้โลกนี้ปราศจากภัยพิบัติ มีแต่ความสงบสุขตราบนานเท่านาน
เรื่อง บุษรา สมบัติ 
ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี, สิงหราช ชวนชม
