“เมษายน” เดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย ในช่วงเวลานี้ความสนุกสนานครึกครื้นถูกแทนที่ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยเย็นวันที่ 8 เมษายน จิตอาสาฉือจี้แผนกงานพยาบาลได้ทราบว่า มีประชาชนเดินทางไปตรวจเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ดังนั้น 9 จึงเร่งจัดการประชุมกับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อร่วมประเมินสถานการณ์โรคระบาด และนำมาตรการป้องกันการติดเชื้อต่างๆมาปรับใช้ในคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ ซึ่งมีมติจากที่ประชุมว่า จะเร่งดำเนินการสะสางผู้ป่วยที่มีนัดหมายพบแพทย์ในวันที่ 10 เมษายน และรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยโรคเรื้อรังจากระบบเวชระเบียนของคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้
บริการจัดส่งยารักษา บรรเทาทุกข์ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากเทศกาลสงกรานต์ ทำให้มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จำเป็นต้องหยุดให้บริการตรวจรักษา แม้ว่า คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้จะปิดบริการชั่วคราว ทว่า ฉือจี้ยังคงให้บริการด้านการแพทย์แก่ผู้ป่วย โดยจิตอาสาและเจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาลต่างทำงานไม่หยุดหย่อน ช่วยกันรวบรวมรายชื่อผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เพื่อดำเนินการจัดยาโดยอ้างอิงข้อมูลจากระบบเวชระเบียน จากนั้นจึงให้ล่ามแปลภาษาในโครงการช่วยเหลือด้วยการทำงาน นำไปส่งถึงมือผู้ป่วยด้วยตนเอง ขอเพียงแค่เป็นผู้ลี้ภัยที่เคยเข้ามารับบริการรักษาที่คลินิกฯ ฉือจี้จะพยายามช่วยเหลือให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
จิตอาสาช่วยกันตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยอย่างละเอียดรอบคอบ
“ทุกคนมีงานทำ ทุกงานมีคนทำ” ทุกคนต่างมุ่งมั่นในหน้าที่ของตน ช่วยกันทำงานการบริการจัดส่งยารักษาโรคให้สำเร็จลุล่วง
คุณจางฮุ่ยเจิน จิตอาสาฉือจี้ ซึ่งรับหน้าที่ผู้จัดการทั่วไปของแผนกงานรักษาพยาบาล แบ่งปันว่า “เนื่องจากเกรงว่า ผู้ลี้ภัยที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังจะขาดยารักษา เพราะฉะนั้น 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แผนกงานรักษาพยาบาลจึงจัดเตรียมและรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยมาโดยตลอด และวันนี้ (24 เมษายน) เราก็มาจัดเตรียมยา เพื่อให้เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาลนำไปส่งถึงมือผู้ป่วยผู้ลี้ภัย ที่จำเป็นต้องได้รับยารักษาต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆค่ะ”
ยารักษาโรคเหล่านี้ จะถูกส่งให้กับผู้ลี้ภัยที่จำเป็นต้องได้รับยารักษาต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคประจำตัวอื่นๆ เป็นต้น โดยบุคลากรทางการแพทย์จะเข้าไปอ่านประวัติผู้ป่วยทีละคน เพื่อนำมาพิจารณาว่า ใครมีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจริงๆ จากนั้นจึงจัดทำรายชื่อผู้ป่วย เพื่อดำเนินการจัดยาส่งให้ผู้ป่วยต่อไป สำหรับในเคสที่ค่อนข้างซับซ้อน บุคลากรทางการแพทย์จะขอให้เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาลช่วยโทรศัพท์ติดต่อสอบถามถึงอาการป่วยในปัจจุบัน จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้ไปขอคำปรึกษากับแพทย์อีกครั้งว่า จะจ่ายยาให้ผู้ป่วยตามเดิมหรือมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
คุณภาคภูมิ จันทร์หม่อน เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาล รวบรวมข้อมูลผู้ป่วยเก่าที่ติดต่อขอรับยา จากนั้นนำข้อมูลมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ดำเนินการจัดเตรียมยาต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ป่วยเก่าที่เคยมารับบริการรักษาที่คลินิกฯ ยังสามารถติดต่อขอรับยารักษาโรคผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ ไลน์บัญชีทางการของคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ 2.สายด่วนของคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ ให้บริการตลอด 24 ชม. และ 3.ไลน์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยใหม่ หรือผู้ป่วยที่ไม่เคยมารับบริการรักษาที่คลินิกฯ ฉือจี้ยังไม่สามารถให้บริการจัดส่งยารักษาโรคให้ได้ เนื่องจากผู้ป่วยต้องเคยผ่านการตรวจวินิจฉัยโรคจากแพทย์ก่อน ดังนั้น จึงทำได้เพียงให้คำแนะนำให้เดินทางไปรับบริการรักษาที่โรงพยาบาล
คุณมรินทร์ธรณ์ เสมรอด พยาบาล สมาคมแพทย์อาสาฉือจี้ ตรวจสอบประวัติผู้ป่วยแต่ละคนอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาว่าใครจำเป็นต้องได้รับยารักษาอย่างต่อเนื่อง
ในขั้นตอนของการเตรียมยาส่งให้ผู้ป่วยผู้ลี้ภัยล้วนเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยจากฉือจี้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเขาจะอยู่บ้านดูแลตัวเองในช่วงโรคระบาดนี้ เพราะว่า หากให้พวกเขาเดินทางมารับยาเอง อาจจะมีความเสี่ยงติดเชื้อจากการเดินทางได้ คุณมรินทร์ธรณ์ เสมรอด พยาบาล สมาคมแพทย์อาสาฉือจี้ แบ่งปันว่า “เราก็จะดูว่าครั้งก่อนคนไข้ได้รับยาไปเมื่อไหร่ และจำนวนยาที่ได้รับได้ไปครอบคลุมกี่วัน แล้วครั้งต่อไปคนไข้จะต้องมารับยาภายในวันที่เท่าไหร่ เราก็จะส่งต่อยาให้คนไข้ โดยที่คนไข้ไม่ต้องมาหาเราที่คลินิกค่ะ”
เภสัชกรจัดยาให้ผู้ป่วยด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อเตรียมยาจัดส่งให้กับผู้ป่วยผู้ลี้ภัยต่อไป
ยาที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อย รอจัดส่งถึงมือผู้ป่วย
ยารักษาโรคอันเปี่ยมด้วยความรัก บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขทั้งกายใจ
ในช่วงเวลานี้ โต๊ะยาว 2-3 ตัว ที่อยู่ภายในห้องยาคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ เต็มไปด้วยยาทั้งถุงขนาดเล็ก ถุงขนาดใหญ่จัดวางอยู่เต็มโต๊ะ ซึ่งยาแต่ละถุงต่างมีรายละเอียดยาชนิดต่างๆ และที่อยู่ของผู้ป่วยติดอยู่บนถุงยาไว้อย่างชัดเจน
ยาแต่ละถุงมีรายละเอียดยาและที่อยู่ของผู้ป่วยอย่างชัดเจน เพื่อเอื้อต่อการจัดส่งยารักษาโรคให้สามารถทำได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น
ก่อนที่จะนำยาไปจัดส่งให้กับผู้ป่วย จิตอาสาและเจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาล ต่างช่วยกันตรวจความถูกต้องของข้อมูลผู้ป่วยที่ติดอยู่บนยาแต่ละถุง จำแนกที่อยู่ผู้ป่วยออกเป็นพื้นที่ต่างๆ
โดยปกติแล้ว ยาทั่วไปจะสามารถจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติได้ แต่ว่า มียาบางชนิดที่จำเป็นต้องเก็บรักษาในตู้เย็น เช่น ยาฉีดอินซูลินสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น ดังนั้น จิตอาสาจึงต้องจัดเตรียมยาประเภทนี้ด้วยความพิถีพิถัน เพื่อคงคุณภาพยาให้ได้มากที่สุด คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย แบ่งปันว่า “เราก็แพ็คยาลงในกล่องเก็บความเย็น และใส่ก้อนน้ำแข็งลงไปอีกที โดยหวังว่า ยาจะยังคงความสดใหม่ คุณภาพเต็มเปี่ยมเมื่อไปถึงมือผู้ป่วยค่ะ”
จิตอาสานำยาที่ต้องเก็บรักษาด้วยความเย็น บรรจุลงในกล่องรักษาความเย็น เพื่อคงคุณภาพของยาให้ได้มากที่สุด
ก่อนที่จะนำยาไปจัดส่งให้กับผู้ป่วย จิตอาสาและเจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาล ต่างช่วยกันตรวจความถูกต้องของข้อมูลผู้ป่วยที่ติดอยู่บนยาแต่ละถุง และจำแนกที่อยู่ผู้ป่วยออกเป็นพื้นที่ต่างๆ โดยเริ่มทยอยจัดส่งให้ผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา รวม 128 คน
ผู้ป่วยผู้ลี้ภัยกำลังเซ็นรับยา และเอ่ยขอบคุณในความทุ่มเทแรงกายแรงใจของแผนกงานรักษาพยาบาล
คุณภาคภูมิ จันทร์หม่อน เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาล แบ่งปันการจัดส่งยารักษาโรคทั้ง 3 ช่องทางว่า “ช่องทางแรกเราจะจัดส่งทางไปรษณีย์ ช่องทางที่สองคือ ให้เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาลของเรา ลงพื้นที่ไปส่งยารักษาโรคให้คนไข้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งไปรวมถึง ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่เดินเหินไม่สะดวก เป็นต้น และช่องทางที่สามคือ ฝากให้เจ้าหน้าที่แผนกงานรักษาพยาบาลของเรา นำไปให้ผู้ป่วยที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกับที่พักของพวกเขาครับ ”
คุณสมเกียรติ พวงนาค เจ้าหน้าที่ขับรถของมูลนิธิฯ(ขวา 1) และคุณยาราซ ล่ามแปลภาษาในโครงการช่วยเหลือด้วยการทำงาน (ซ้าย 1) นำยาไปจัดส่งให้กับผู้ป่วยผู้ลี้ภัยโดยไม่เว้นว่าง
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้จัดเตรียมยาโดยอ้างอิงข้อมูลจากระบบเวชระเบียน จากนั้นให้ล่ามแปลภาษาในโครงการช่วยเหลือด้วยการทำงานและคนขับรถของมูลนิธิพุทธฉือจี้ นำไปส่งให้ผู้ป่วยในแต่ละพื้นที่ด้วยตัวเอง ทั้งยังให้พวกเขาเซ็นรับยาเป็นหลักฐานอีกด้วย คุณจางฮุ่ยเจินยังเล่าอีกว่า นอกจากการให้บริการจัดส่งยารักษาโรคแล้ว ตอนนี้กำลังวางแผนเกี่ยวกับบริการส่งต่อรักษาพยาบาล และการให้บริการผู้ป่วยจิตเวชอีกด้วย โดยหวังให้บริการผู้ลี้ภัยในช่วงสถานการณ์โรคระบาดได้ครอบคลุมทุกๆด้าน
เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ ภาพ ดรรชนี สุระเทพ ,สมเกียรติ พวงนาค