ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน จนทำให้โรงพยาบาลต่างๆมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอ กระทรวงสาธารณสุขจึงปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษา โดยให้ผู้ป่วยสีเขียวเข้าระบบ Home Isolation ภายใต้การดูแลของคลินิกในชุมชน อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการดังกล่าวได้ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการทำให้อาการโรครุนแรงขึ้น ดังนั้น มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จึงจัดโครงการ “ฉือจี้มอบชุดยาปันรัก ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว” หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยเหลือสังคม บรรเทาอาการเจ็บป่วย คลายความทุกข์กังวล และอวยพรให้ผู้ป่วยผ่านพ้นวิกฤตินี้ในเร็ววัน
ฉือจี้ในเมืองไทยมอบชุดยาปันรัก ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด -19 กลุ่มสีเขียว
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศไทยในปัจจุบันเลวร้ายขึ้นทุกวัน มียอดผู้ติดเชื้อเกิน 10,000 รายตั้งแต่ 17 กรกฎาคม เป็นต้นมา และอัตราของจำนวนผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้นตามจำนวนผู้ติดเชื้อ ทั้งโรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลสนามต่างมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยบางคนอาการหนักมิอาจทนรอจนเสียชีวิตคาบ้าน สร้างความสะเทือนใจต่อผู้ที่รับรู้ข่าวสารยิ่งนัก
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเลวร้ายขึ้นทุกวัน กระทรวงสาธารณสุขจึงปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษา โดยให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวแยกกักตัวรักษาอาการที่บ้าน
กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขจึงปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยจำแนกผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่มตามระดับอาการป่วย ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว คือ ผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก 2. กลุ่มผู้ป่วยสีเหลือง คือ ผู้ป่วยที่มีอาการปานกลาง 3.กลุ่มผู้ป่วยสีแดง คือ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยดำเนินการให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวแยกกักตัวรักษาอาการที่บ้านหรือในชุมชน เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงว่างสำหรับรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ลดอัตราการเสียชีวิต ช่วยชีวิตผู้ป่วยให้ได้มากยิ่งขึ้น
จิตอาสาและพนักงานร่วมประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการให้บริการชุดยาปันรัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน อสจทำให้ภาครัฐดูแลผู้ป่วยไม่ทั่วถึง ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวซึ่งแยกกักตัวรักษาอาการป่วยที่บ้าน ยังคงรอคอยความช่วยเหลือด้านการแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จึงจัดโครงการ “ฉือจี้มอบชุดยาปันรัก ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว”
โดยอาศัยบุญสัมพันธ์ของ “คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้” ซึ่งเริ่มจัดตั้งขึ้นในปีนี้ ให้บริการด้านการแพทย์แก่ประชาชนให้มากยิ่งขึ้น คุณจางฮุ่ยเจิน จิตอาสาฉือจี้ ผู้ซึ่งรับหน้าที่ผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายกิจการรักษาพยาบาลฟรี แบ่งปันว่า “ปัจจุบันยากที่จะหาเตียงได้ โรงพยาบาลใหญ่ต่างๆ ล้วนไม่สามารถรองรับผู้ป่วยเหล่านี้ได้แล้ว ผู้ป่วยเหล่านี้ซึ่งมีผลตรวจยืนยันการติดเชื้อ ได้แต่รอคอยอย่างเงียบๆ อาจจะนานหนึ่งสัปดาห์ อาจจะสิบวัน ทว่า ด้วยสภาพเช่นนี้ อาจทำให้อาการของผู้ป่วย ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น คลินิกเวชกรรมของเรา จึงอาศัยโอกาสนี้ เริ่มเตรียมส่งมอบชุดยาปันรัก เพื่อช่วยบรรเทาอาการป่วยของเขาและหวังว่าพวกเขาจะหายป่วยในเร็ววัน”
คุณณัฐธยาน์ ธนัทกิตติพงศ์ พนักงานแผนกประชาสัมพันธ์ รับหน้าที่เป็นแอดมินของเฟซบุ๊กและไลน์ของฉือจี้ในเมืองไทย คอยรวบรวมข้อมูลส่งให้บุคลากรทางการแพทย์
กลุ่มเป้าหมายของการมอบชุดยาปันรักคือ ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว โดยไม่แบ่งกั้นเชื้อชาติ ศาสนาหรือจากประเทศใด ทั้งประชาชนคนไทย แรงงานต่างด้าว ผู้ลี้ภัย หรือบริษัทต่างๆที่มีพนักงานติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อลงทะเบียนขอรับชุดยาปันรักผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ เบอร์โทรศัพท์ของมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการให้ข้อมูลและแนะนำขั้นตอนการลงทะเบียนรับชุดยาปันรัก
รายการยาต่างๆของชุดยาปันรักฉือจี้
ชุดยาปันรักของฉือจี้อบอวลไปด้วยความรัก อันประกอบไปด้วย ยาพาราเซตามอล ยาขับเสมหะ ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยสีเขียวของกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั่วไป อีกทั้งยังเพิ่มยาอมแก้เจ็บคอ เกลือแร่ และวิตามินซี สำหรับบำรุงร่างกายและทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้ดียิ่งขึ้น คุณมรินทร์ธรณ์ เสมรอด บุคลากรทางการแพทย์คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ แบ่งปันว่า “ถ้าผู้ป่วยได้รับยาอันนี้ไป อย่างน้อยในช่วงที่ผู้ป่วยจะต้องรอเตียง อาการผู้ป่วยจะดีขึ้น ในบางกรณีกรณีไหนที่เชื้อลงปอดแล้ว ก็จะสามารถช่วยยืดเวลาไม่เกิดภาวะวิกฤติค่ะ ”
คุณมรินทร์ธรณ์ เสมรอ บุคลากรทางการแพทย์ของคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ จัดยาให้ผู้ป่วยด้วยความละเอียดรอบคอบ
แม้ว่าชุดยาปันรักของฉือจี้จะมีรายการยาที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว ทว่า บุคลากรทางการแพทย์ของคลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้ยังคงจัดยาให้กับผู้ป่วยอย่างละเอียดรอบคอบ โดยพิจารณาจากข้อมูลของผู้ป่วยทีละคน ซึ่งลงทะเบียนและกรอกข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไว้ เช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา เป็นต้น จากนั้นเภสัชกรจึงจะดำเนินการจัดยาตามที่แพทย์ปรับเปลี่ยนยาตามความเหมาะสม
กำลังคนน้อย แต่ความรักของจิตอาสาฉือจี้ไม่มีจำกัด
ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและมาตรการเคอร์ฟิว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จิตอาสาไม่สามารถรวมตัวกันเป็นจำนวนมากเพื่อร่วมทำกิจกรรมได้ ดังนั้น จึงมีจิตอาสาและพนักงานเพียงเพียงไม่กี่คน ร่วมแรงร่วมใจกันให้บริการจัดส่งชุดยาปันรักให้กับผู้ป่วย
จิตอาสาและพนักงานช่วยกันจัดเตรียมชุดยาปันรัก
ในชุดยาปันรักนอกจากยาชนิดต่างๆดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีแผ่นพับแนะนำฉือจี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจต่างๆของมูลนิธิฯ ทั้งยังมีหนังสือวาทะจิ้งซือเล่มเล็ก ซึ่งรวมคติธรรมอันดีจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน หวังให้ผู้ป่วยเปิดอ่านแล้ว รู้สึกผ่อนคลายความกังวลใจ รวมไปถึงพวงกุญแจ “ผิงอัน” อันมีความหมายว่า “ปลอดภัย” ที่แขวนบนหูหิ้วของถุงยาปันรัก สื่อความหมายถึงคำอวยพรจากใจของจิตอาสาฉือจี้
นอกจากยาชนิดต่างๆแล้ว ยังมีแผ่นพับแนะนำฉือจี้ หนังสือวาทะจิ้งซือ และพวงกุญแจ “ผิงอัน” อันมีความหมายว่า “ปลอดภัย” สื่อความหมายถึงคำอวยพรจากใจของจิตอาสาฉือจี้
คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ ประธานบริหารมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย แบ่งปันว่า “นี่คือยาที่เราจะส่งให้กับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 เราหวังว่า เมื่อพวกเขาได้รับยานี้แล้ว จะสามารถช่วยบรรเทาอาการ จนสามารถกลับมาแข็งแรงได้ โดยถุงยาที่เราส่งออกไป ด้านบนก็จะมีการแขวนพวงกุญแจ ที่มีความหมายว่า “ปลอดภัย” เพื่ออวยพรให้พวกเขา กลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ทุกอย่างปลอดภัย ไร้กังวล สำหรับในไทยตอนนี้ เราก็หวังว่าสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 จะผ่านพ้นไปในเร็ววัน เพื่อให้ทุกคนกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง สังคมสงบสุขร่มเย็นค่ะ”
คุณพิณญ์ธิชา (ซ้าย) ช่างภาพ และคุณฐิติกร (ขวา) พนักงานแผนกสังคมสงเคราะห์ ช่วยกันนำชุดยาปันรักแพ็คลงในกล่องพัสดุ เพื่อเตรียมจัดส่งให้กับผู้ป่วย
จัดส่งทุกวัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างทันท่วงที คุณประยงค์ กรฉ่ำ พนักงานแผนกธุรการ ชุดยาปันรักจัดส่งให้กับผู้ป่วยทุกวันๆ
จิตอาสาจัดส่งชุดยาปันรักทุกวัน เพื่อส่งถึงผู้ป่วยอย่างทันท่วงที ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ส่งพัสดุด้วยไปรษณีย์หรือขนส่งเอกชน 2.จัดส่งด้วยมอเตอร์ไซค์ขนส่งหรือแมสเซ็นเจอร์ส่งของ 3.ตัวแทนบริษัทเดินทางมารับชุดยาปันรักที่มูลนิธิฯ จากนั้นนำไปแจกจ่ายให้กับพนักงานที่ติดเชื้อโควิด
บริการหลังจัดส่ง ติดตามอาการผู้ป่วยด้วยความห่วงใย
ผู้ป่วยต่างรู้สึกดีใจที่ได้รับชุดยาปันรักจากฉือจี้ แต่อย่างไร้ก็ตาม แม้ว่าชุดยาปันรักจัดส่งถึงมือผู้ป่วยแล้ว แต่จิตอาสายังคงให้บริการหลังการจัดส่ง ติดตามอาการผู้ป่วยด้วยความห่วงใย
หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงขึ้น คลินิกเวชกรรมพุทธฉือจี้จึงปรับเปลี่ยนการให้บริการเป็น “การแพทย์ทางไกล” ผ่านการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ป่วยทุกวันเสาร์ จิตอาสาฉือจี้จึงอาศัยโอกาสอันดีนี้ ขอให้แพทย์วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามอาการผู้ป่วย ที่ได้รับชุดยาปันรักจากฉือจี้ผ่านการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นพ.ธนธร สรวิภูกุนทร พูดคุยกับตัวแทนบริษัทเพื่อสอบถามถึงอาการป่วยของพนักงานที่ติดเชื้อโควิดผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นพ.ธนธร สรวิภูกุนทร ซึ่งเคยร่วมให้บริการรักษาผู้ป่วยโควิดที่โรงพยาบาลสนาม เห็นด้วยกับการมอบชุดยาปันรักของฉือจี้ เพราะไม่เพียงช่วยบรรเทาอาการให้กับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ในขณะเดียวกันยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางช่วยลดภาระงานดูแลผู้ป่วย ทำให้บุคลากรสามารถมุ่งเน้นดูแลรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดงได้มากยิ่งขึ้น นพ.ธนธร แบ่งปันว่า “การมอบชุดยาปันรักของฉือจี้ก็ดีนะครับ หนึ่งคือมีคนที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวในขณะที่ไม่ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อย่างที่สองคือ ช่วยประหยัดเตียงทางโรงพยาบาล เพราะปัจจุบันทางโรงพยาบาลก็ต้องการใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มจะรุนแรงครับ ”
จิตอาสาตั้งใจจัดเตรียมอาหาร ผลไม้ ขนม ชาสมุนไพร ผงธัญพืช และชุดยาปันรัก จัดส่งให้ผู้ป่วยชาวไต้หวัน
ดูแลผู้ป่วยชาวไต้หวัน รักษาตัวในต่างถิ่นอย่างอุ่นใจ คุณเลี่ยวอี้ถิง เดินทางมาประเทศไทยเพื่อสัมภาษณ์วีซ่าเดินทางไปสวีเดน และตรวจพบเชื้อในระหว่างกักตัว เมื่อมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันสำนักงานใหญ่แจ้งข่าวดังกล่าวแล้ว จิตอาสาฉือจี้ในเมืองไทยจึงเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดูแลเคียงข้างราวเป็นบุตรหลานตน โดยเตรียมอาหาร ผลไม้ ขนม ชาสมุนไพร ผงธัญพืช และชุดยาปันรัก ให้มอเตอร์ไซค์ขนส่งนำไปส่งให้คุณเลี่ยวอี้ถิงอย่างเร่งด่วน หวังให้คุณเลี่ยวอี้ถิงรักษาตัวอยู่ในต่างถิ่นฐานบ้านเกิดได้อย่างอุ่นใจ และให้ญาติพี่น้องที่อยู่ไต้หวันรู้สึกคลายกังวลหายห่วง คุณเลี่ยวอี้ถิง แบ่งปันความรู้สึกว่า “ขอบคุณมากๆนะคะ ที่จิตอาสามาให้ความช่วยเหลือทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ความรู้สึก ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆค่ะ ดีมากๆเลยค่ะที่มีพวกคุณอยู่เคียงข้าง ขอบคุณที่พวกคุณคอยอยู่เคียงข้างค่ะ”
หลังจากตรวจครั้งล่าสุดพบว่าไม่มีเชื้อโควิดแล้ว คุณเลี่ยวอี้ถิงก็จะเดินทางกลับในวันที่ 4 สิงหาคม โดยก่อนวันเดินทาง จิตอาสาพูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบพร้อมทั้งอวยพรผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
เจ้าหน้าที่แผนกวีดีโอและแผนกวารสาร พูดคุยสัมภาษณ์ผู้ได้รับชุดยาปันรักจากฉือจี้ เพื่อจัดทำสื่อสำหรับประชาสัมพันธ์โครงการให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงความช่วยเหลือมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งติดตามสอบถามอาการป่วยด้วยความห่วงใยไปในขณะเดียวกัน
คุณกนกชัย (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่เก็บขยะมูลฝอย ซึ่งสงสัยว่าตนติดเชื้อโควิดจากการในขณะทำงานเก็บขยะ หลังจากตรวจพบเชื้อแล้ว เขาและภรรยาต่างกักตัวกันอยู่คนละห้องทันที โชคดีที่ภรรยาไม่ได้ติดเชื้อไปด้วย และยังคอยดูแลภายใต้ขอบเขตของระยะห่างระหว่างกักตัว ในช่วงแรกๆคุณกนกชัยประสานหาเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ แต่ล้วนตอบกลับมาว่า “เตียงเต็ม” ทำให้เขาต้องหาซื้อยามารับประทานเอง รักษาตัวที่บ้านต่อไป
ช่วงที่คุณกนกชัยเริ่มมีไข้ ไอและเจ็บคอรุนแรงมากขึ้น ภรรยาก็ได้เห็นข่าวประชาสัมพันธ์ชุดยาปันรักของฉือจี้ จึงติดต่อเข้ามาลงทะเบียนรับยาทันที ไม่กี่วันชุดยาปันรักของฉือจี้ก็ส่งถึงบ้าน คุณกนกชัยรู้สึกดีใจมาก เพราะว่ายาที่ซื้อมารับประทานเองก่อนหน้านี้ใกล้จะหมดแล้ว คุณกนกชัย แบ่งปันความรู้สึกว่า “ในระหว่างกักตัวผมก็ออกไปไหนไม่ได้ หาสั่งซื้อยาก็ลำบาก ทางมูลนิธิฯจัดส่งชุดยาถึงบ้าน เราก็เพียงแค่รอรับได้เลย ซึ่งมันจะช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายครับ เพราะชุดนึงก็น่าจะหลายบาทอยู่เหมือนกัน ”
คุณกนกชัยยังเล่าอีกว่า ตอนนี้อาการของเขาทุเลาลงมากแล้ว แทบไม่มีอาการป่วยใดๆเลย ทว่า ยังคงกักตัวที่บ้านอีกสักระยะ หลังจากนั้น เขากับภรรยาจึงจะไปตรวจโควิดอีกครั้ง หากไม่พบเชื้อจึงจะกลับไปทำงานตามเดิมต่อไป
ชุดยาปันรักเต็มไปด้วยความรักและคำอวยพรของจิตอาสาฉือจี้
ชุดยาปันรักของฉือจี้ เริ่มต้นให้บริการตั้งแต่ 24 กรกฎาคม มีผู้ได้รับชุดยาปันรัก (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค.) ในส่วนรายบุคคล 207 คน และในส่วนบริษัท โรงงาน หรือหน่วยงานต่างๆ จำนวน 41 แห่ง จำนวน 2,636 คน รวม 2,843 คน ซึ่งโครงการนี้ยังคงดำเนินการต่อไป โดยคุณจางฮุ่ยเจิน กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราเตรียมชุดยาปันรักไว้ 4,000 ชุด แต่หากยังมีคนต้องการความช่วยเหลือเพิ่ม เราก็จะทำต่อไปอีกค่ะ ”
หากผู้ป่วยท่านใดต้องการชุดยาปันรักของฉือจี้ สามารถติดต่อได้ที่
Facebook:Tzuchithailand มูลนิธิฉือจี้
LINE:@tzuchithailand
โทรศัพท์ :02-3281161 ถึง 63 หรือ 061-9565809,061-8471388,094-2577987(中文),080-5585392(English)
เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ ภาพ รัตนโชติ ประมวลทรัพย์,พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี,ดรรชนี สุระเทพ