วันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2560 เวลา 10.00 น. รองศาสตราจารย์ ดร.สุรีพร ธนศิลป์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ
กิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี
บุคลากรทางการแพทย์ทุ่มเทเสียสละ บริการผู้ป่วยด้วย “จิตอาสา”
ยึดมั่นในปณิธาน เรียนรู้ใจกว้างจิตบริสุทธิ์
จากการแจ้งให้ทราบของ นพ.โชคชัย ลีโทชวลิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เกี่ยวกับกิจกรรมรักษาบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้คุณกฤษฎากมล ชื่นอิ่ม หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลกระทุ่มแบน รู้สึกมีความสนใจในกิจกรรมดังกล่าว แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในรายละเอียดของกิจกรรมมากนัก แต่เพียงทราบว่าเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำเพื่อผู้อื่น คุณกฤษฎากมล ก็ตอบรับมาร่วมกิจกรรมทันที “ตอนแรกที่เห็นตารางกิจกรรมตลอดทั้งปี ดิฉันก็ตั้งใจไว้เลยว่า ในหนึ่งปีนี้ดิฉันจะมาทุกครั้ง จะมีคนอื่นมาด้วย หรือมีดิฉันแค่คนเดียว ดิฉันก็จะมาร่วมกิจกรรมค่ะ ” คุณกฤษฎากมลแบ่งปัน
นอกจากใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไปกับการพักผ่อน ทำกิจธุระส่วนตัวแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณกฤษฎากมลชื่นชอบ คือ การร่วมกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เช่นเดียวกับกิจกรรมรักษาบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ของทุกเดือน มักจะเห็นคุณกฤษฎากมลมาร่วมกิจกรรมดังที่ตั้งใจไว้ แม้จะเหน็ดเหนื่อยแทบจะไม่ได้พักผ่อน ทั้งต้องเผชิญอุปสรรคด้านภาษากับผู้มารับบริการรักษาพยาบาลหลายร้อยคน คุณกฤษฎากมลยังคงยินดี เพียงหวังว่าสิ่งที่ตนได้ทุ่มเท จะสามารถแบ่งเบาภาระงานให้แพทย์ พยาบาล และอาสาสมัคร สิ่งที่สำคัญคือ หวังเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาทุกข์ให้ผู้มารับบริการรักษา “เราทำแล้วสุขใจมากกว่า เพราะทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ “ให้” ” คุณกฤษฎากมลแบ่งปันความปีติ
▲ คุณเสริมเกียรติ ไกรทองสุข (จากขวา 1) ผู้เปี่ยมไปด้วย “จิตอาสา” มาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีทุกครั้ง คุณเสริมเกียรติแบ่งปันว่า ถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อได้เห็นผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือมีรอยยยิ้ม ก็รู้สึกได้ว่าคุ้มค่าที่ได้ทุ่มเทเสียสละเพื่อพวกเขา
ท่านธรรมาจารย์มักกล่าวอยู่เสมอว่า “การบำเพ็ญตน ไม่เพียงฝึกปฏิบัติตนให้ดีเท่านั้น ยังต้องเดินเข้าหามวลชน ดูแลผู้อื่น และผูกบุญสัมพันธ์อันดีต่อผู้อื่น” คุณกฤษฎากมล ยังได้แบ่งปันว่า จากการร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีเกือบ 1 ปี ไม่เพียงได้เห็นถึงความรักที่ชาวฉือจี้ได้มอบให้กับผู้มารับบริการรักษาด้วยความจริงใจ หากยังได้เรียนรู้ถึงการเปิดใจกว้าง คุณกฤษฎากมล แบ่งปันประสบการณ์อันน่าประทับใจว่า มีสามีภรรยาชาวเวียดนามคู่หนึ่ง มาร่วมรับบริการรักษาเป็นประจำทุกเดือน ครั้งหนึ่งแพทย์ไม่ได้จ่ายยาชนิดที่พวกเขาเคยได้รับ พวกเขาจึงไม่พอใจเพราะไม่ได้รับชนิดนั้นๆ แต่เมื่อได้รับคำอธิบายจากคุณกฤษฎากมลแล้ว สองสามีภรรยาจึงยอมเข้าใจในเหตุผล “บางคนอาจจะมองว่าพวกเขาเรียกร้อง แต่บางทีพวกเขาแค่อยากให้เราอธิบายเพิ่มเติม เมื่อเราให้ข้อมูล อธิบายให้เข้าใจมากขึ้น พวกเข้าก็จะยอมรับฟังเหตุผล” คุณกฤษฎากมล แบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้
รอยยิ้มแห่งความสุข คุ้มค่าต่อการทุ่มเท
มูลเหตุมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ พ.ศ. 2554 ทำให้คุณเสริมเกียรติ ไกรทองสุข หัวหน้าหน่วยรักษาพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับอาสาสมัครฉือจี้เรื่อยมา ดังนั้น เมื่อทราบข่าวกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี คุณเสริมเกียรติผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเป็น “จิตอาสา” จึงยินดีมาร่วมกิจกรรมโดยไม่ลังเล
คุณเสริมเกียรติเล่าว่า เริ่มทำงานออกหน่วยรักษาพยาบาลกับทางโรงพยาบาลตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ในแต่ละเดือนมักจะได้เดินทางไปออกหน่วยรักษาพยาบาลในถิ่นทุรกันดานของประเทศไทย ประมาณเดือนละ 2-3 ครั้ง เกือบ 10 ปีที่คุณเสริมเกียรติได้เข้าร่วมกิจกรรมออกหน่วยรักษาพยาบาล ไม่เพียงได้สั่งสมประสบการณ์ในด้านการทำงาน หากยังได้เพิ่มพูน “ความเป็นจิตอาสา” ในใจของคุณเสริมเกียรติ ดังกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีที่ผ่านมา จะเห็นว่าคุณเสริมเกียติมาร่วมกิจกรรมทุกครั้ง ช่วยอำนวยความสะดวกหน้าห้องตรวจด้วยความทุ่มเทเสียสละอยู่เสมอ คุณเสริมเกียรติแบ่งปันว่า แม้จะรู้สึกเหนื่อย แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่ายิ่งกว่า “เมื่อเราได้ช่วยผู้อื่น แล้วเห็นเขายิ้ม คนช่วยอย่างเราก็รู้สึกอิ่มใจ” คุณเสริมเกียรติ แบ่งปันความปีติ
การมาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ไม่เพียงได้ช่วยเหลือผู้อื่น อาหารมังสวิรัติหลากหลายเมนูน่ารับประทาน รสชาติอร่อย ที่อาสาสมัครได้จัดเตรียมไว้บริการบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร ยังเป็นโอกาสให้คุณเสริมเกียรติมีเมตตาจิตต่อสรรพสัตว์ ลดการรับประทานเนื้อสัตว์ คุณเสริมเกียรติแบ่งปันว่า“ผมประทับใจเรื่องอาหาร เพราะผมไม่เคยรับประทานอาหารมังสวิรัติ ทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่มาออกหน่วยรักษาพยาบาลกับฉือจี้ ผมจะต้องรับประทานอาหารมังสวิรัติให้ได้ เมื่อรับประทานแล้วยังทำให้ผมรู้สึกว่า เราต้องกลับไปดูแลตัวเองบ้างแล้ว” คุณเสริมเกียรติยังแบ่งปันว่า เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง ต่อไปนี้จะพยายามรับประทานผักให้มากขึ้น และควบคุมน้ำหนักให้ดี แม้ว่าจะเป็นโอกาสรับประทานอาหารมังสวิรัติ เดือนละ 1 มื้อ แต่ชาวฉือจี้เชื่อว่า จากจุดเริ่มต้นในวันนี้ จะสามารถจุดประกายให้คุณเสริมเกียรติ หันมารับประทานอาหารมังสวิรัติ เพื่อสุขภาพของตัวเอง เคารพทุกสรรพชีวิต และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ในอนาคต
เรื่อง ดรรชนี สุระเทพ
ภาพ พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี , บุษรา สมบัติ , ดรรชนี สุระเทพ , สมพงษ์ จิตไพบูลย์ , จางอิงหม่าน
อธิษฐานบุญ อวยพรปีใหม่ แจ้งประจักษ์ ความรักในสังคม
วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560 สถานธรรมจิ้งซือจัดพิธีอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ขึ้น เพื่อขอบพระคุณอาสาสมัครและผู้มีจิตศรัทธาที่ให้การสนับสนุนฉือจี้และทุ่มเททำงานเสียสละด้วยกันมาโดยตลอด โดยในปีนี้มีผู้มีจิตศรัทธามาร่วมงานถึง 464 คน
อบรมจิตอาสาฉือจี้ขั้นต้น แบบอย่างที่ดีมีค่ายิ่งกว่าคำสอน
อบรมจิตอาสาฉือจี้ขั้นต้น แบบอย่างที่ดีมีค่ายิ่งกว่าคำสอน
เพื่อพุทธศาสนา เพื่อมวลชีวัน
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 วันที่สองของ “การอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพุทธฉือจี้รุ่นที่ 1/2559” ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร อาสาสมัครฉือจี้ คุณสุชน แซ่เฮง เริ่มต้นชั้นเรียนด้วยการเล่าถึงมูลเหตุของการก่อตั้งมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน กล่าวคือ วันหนึ่งมีแม่ชีคาทอลิก ได้เดินทางมาพบท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนถึง ศาสดา เป้าหมายและหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่ตนเองนับถือ ก่อนที่แม่ชีทั้งสามจะเดินทางกลับ ได้กล่าวกับท่านธรรมาจารย์ว่า “ในที่สุดวันนี้ก็ได้เข้าใจแล้วว่า ความเมตตาของพระพุทธองค์นั้น ครอบคลุมไปแด่ทุกสรรพชีวิตบนโลก ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ทว่าความรักของพระเจ้า แม้จะจำกัดอยู่แค่หมู่มวลมนุษยชาติ แต่พวกเราได้สร้างโบสถ์ สร้างโรงพยาบาลรวมถึงดูแลสถานสงเคราะห์คนชรา ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมนานัปการ แล้วพุทธศาสนาเล่า ได้อุทิศสิ่งใดเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง” เมื่อท่านธรรมาจารย์ฟังแล้วรู้สึกอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะตอบประการใด นั่นเพราะพุทธศาสนิกชนส่วนมาก มักจะปิดทองหลังพระ ต่างคนต่างทำบุญ เมื่อทำบุญก็ไม่ต้องการออกนาม เป็นที่น่าเสียดาย ที่ไม่มีใครรวบรวมความรักอันยิ่งใหญ่นี้ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนจึงตัดสินใจทุ่มเทแรงกายแรงใจ จัดตั้ง “ฉือจี้” ขึ้น โดยเริ่มต้นจากการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ยากไร้ จนขยายเป็น 4 ภารกิจ 8 รอยธรรม
รับรองวุฒิกรรมการฉือจี้ จุดเริ่มต้น “พุทธจิต ปณิธานธรรมาจารย์”
สายลมหนาวที่มาเยือน ทำให้อุณหภูมิในกรุงเทพมหานครค่อย ๆ ลดต่ำลง ทว่า ณ สถานธรรมจิ้งซือกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เหล่าคณะทำงานต่างก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อเตรียมต้อนรับสมาชิกครอบครัวฉือจี้จากทั่วประเทศที่กำลังจะเดินทางกลับมา ทุกคนมุ่งมั่นวางแผนงาน แบ่งงาน เพื่อให้
อบรมจิตอาสาฉือจี้ขั้นต้น “ความดี” ต้องทำทันที
การอบรมอาสาสมัครฉือจี้ขั้นต้น “การอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพุทธฉือจี้รุ่นที่ 1/2559
การอบรมอาสาสมัครฉือจี้ขั้นต้น (อาสาสมัครเสื้อเทา) ในครั้งนี้ จัดขึ้นสืบเนื่องมาจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่และจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เคยมาเข้าร่วมการอบรมอาสาสมัครฉือจี้ขั้นต้น ณ โรงพยาบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 21-24 สิงหาคม พ.ศ.2557 ที่ผ่านมา เมื่อเดินทางกลับไปยังจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง จนเกิดชมรมจิตอาสาพระนเรศวรขึ้น ในมหาวิทยาลัยนเรศวร
มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยดอยจะนะ
ไฟป่าเผาไหม้ดอยจะนะ อาสาสมัครฉือจี้เร่งช่วยเหลือ
เพลิงไหม้เผาไหม้หมู่บ้านบนดอย อาสาสมัครฉือจี้เร่งช่วยเหลือมอบความห่วงใย
เดือนเมษายน เป็นช่วงหน้าแล้งและอากาศร้อนที่สุดของเมืองไทย เวลาประมาณ 16.00น.ของวันที่ 12 เมษายน 2559 เกิดเหตุไฟป่าบนภูเขาในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และลุกลามเผาวอดหมู่บ้านดอยจะนะ ถึงแม้จะมีกลุ่มผู้ชายในหมู่บ้านช่วยกันดับเพลิง ทว่า เนื่องด้วยอากาศร้อนสูง 40 องศาเซลเซียส มีลมพัดแรง อีกทั้งไม่มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับการดับเพลิง ทำให้ยากต่อการควบคุมเพลิงไหม้ หลังจากไฟป่าเผาลามมายังหมู่บ้านไม่นาน ทั้งหมู่บ้านก็กลายเป็นทะเลเพลิง ซึ่งเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้เผาวอดบ้านเรือนของพี่น้องไป 45 หลัง มีผู้ได้รับผลกระทบ 187 คน และมีผู้บาดเจ็บจากการช่วยดับเพลิง เป็นผู้ชายจำนวน 3 หนึ่งในจำนวนนั้นมี 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ส่วนอีก 1 คนอาการสาหัส ถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงใหม่แล้ว
อาสาสมัครฉือจี้ได้รับเกียรติให้เข้าพบองคมนตรี
อาสาสมัครฉือจี้ได้รับเกียรติให้เข้าพบองคมนตรี
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 อาสาสมัครฉือจี้ คุณอู๋เทียนฝูและคุณสุภาภรณ์ วารีเกษม ได้รับเกียรติให้เข้าพบ ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ณ ทำเนียบองคมนตรี
โดยท่านองคมนตรีได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ท่านได้มีโอกาสไปดูงานที่ฉือจี้ไต้หวัน ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2553 ท่านได้นำเอาคำสอนของท่านธรรมจารย์เจิ้งเอี๋ยน เข้ามาใช้กับโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม จังหวัดพิจิตร ซึ่งท่านเป็นศิษย์เก่าของที่นี่
พิธีร่มโพธิ์ร่มไทร เนื่องในวันสงกรานต์
“พิธีร่มโพธิ์ร่มไทร” สงกรานต์แห่งความสำนึกคุณ
วันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี นอกจากจะเป็นวันสงกรานต์และวันปีใหม่ไทยแล้ว วันผู้สูงอายุและวันครอบครัวของไทยก็ยังตรงกับช่วงเวลานี้ด้วย ดังนั้น หลายคนจึงเลือกที่จะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่พี่น้องของตนเอง หรือคนที่มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานครก็เลือกที่จะไปวัดทำบุญกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2559 อาสาสมัครฉือจี้ ถือโอกาสผูกบุญสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง ของสถานธรรมจิ้งซือ ในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร โดยจัด “พิธีร่มโพธิ์ร่มไทร” ขึ้น เชิญชวนผู้ที่เดินทางไปตักบาตรทำบุญที่วัดทุ่งลานนา ร่วมกันเสิร์ฟน้ำชาสำนึกคุณ ล้างเท้าให้กับบุพการีแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีจากหัวใจ
▲อาสาสมัครฉือจี้ร่วมแรงร่วมใจ แบ่งหน้าที่กันจัดสถานที่ นำป้ายชื่อกิจกรรมแขวนไว้ในจุดที่เหมาะสม
วัดทุ่งลานนา ตั้งอยู่ห่างจากสถานธรรมจิ้งซือประมาณสองกิโลเมตร เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาสาสมัครฉือจี้ได้เข้ากราบ พระเกษมพันธ์ สุธีโร รองเจ้าอาวาส พระเกษมพันธ์ เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรม โดยได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ ที่ไม่เพียงอนุเคราะห์สถานที่จัดกิจกรรม แต่ยังช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนญาติโยมที่มาทำบุญอยู่รอ เพื่อเข้าร่วมพิธีร่มโพธิ์ร่มไทร กับอาสาสมัครฉือจี้ต่อในช่วงบ่าย
▲ร่วมแรงร่วมใจ อาสาสมัครช่วยกันส่งต่อเก้าอี้จากห้องเก็บของด้านหลัง ออกมาจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
พระเกษมพันธ์ สุธีโร รองเจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา ให้โอวาสว่า “อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของวันสงกรานต์ ในช่วงเวลานี้แม้หลายคนอาจจะเที่ยวเล่นด้วยความสนุกสนาน แต่ก็อย่าลืมแก่นแท้ของประเพณี ขอให้ทุกคนได้ใช้เวลานี้กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว รำลึกและตอบแทนพระคุณร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัว”
▲อาสาสมัครช่วยกันส่งต่อกะละมังน้ำ เพื่อขึ้นมายังโบสถ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรม
แบ่งงาน แต่รวมใจ
เมื่ออาสาสมัครฉือจี้เดินทางมาถึงสถานที่จัดกิจกรรม ทุกคนต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานตามหน้าที่ของตน แต่เมื่องานของตนเรียบร้อย และพบว่าจุดใดต้องการกำลังสนับสนุน ต่างก็ไม่มีใครรีรอ พร้อมใจกันเข้าไปเป็นกำลังเสริมให้โดยอัตโนมัติ จนกระทั่งพิธีร่มโพธิ์ร่มไทร ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 13.30 น.
▲ทำงานทุกอย่างด้วยความตั้งใจ อาสาสมัครนำดอกไม้หอมบรรจงใส่ลงในกะละมังน้ำทุกใบ
แม้ร่างกายจะบอบบาง แต่หัวใจกตัญญูนั้นเข้มแข็ง เด็กชายกฤตภาส ชูเดช ประคองถือกะละมังน้ำอย่างมั่นคง ค่อยๆ เดินตามแถวเข้ามา เพื่อไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของคุณแม่ หลังจากอาสาสมัครฉือจี้ให้สัญญาณ จึงค่อยๆ คุกเข่าลง และล้างเท้าให้ท่านด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ แม้จะพูดไม่เก่ง แต่ก็พยายามพูดแบ่งปันความสุขที่ได้รับในวันนี้อย่างกล้าหาญ เด็กชายกฤตภาส กล่าวว่า “วันนี้ผมดีใจมากครับ ที่ได้มีโอกาสล้างเท้าให้คุณแม่”
▲เนื่องจากอากาศร้อนอบอ้าว อาสาสมัครจึงเตรียมน้ำใบเตยไว้ให้ผู้เป็นลูก เสิร์ฟให้กับพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ดื่มด้วยความชื่นใจ
เมื่อเห็นความรู้เดียงสาของบุตรชายตัวน้อย คุณแม่ปาณิสรา ชูเดช ก็รู้สึกวางใจ พร้อมทั้งแบ่งปันว่าการที่เชิญชวนสมาชิกครอบครัวทั้งห้าคน ให้อยู่รอร่วมพิธีร่มโพธิ์ร่มไทรนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด คุณแม่ปาณิสรา กล่าวว่า “กิจกรรมวันนี้ก็เป็นการส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมไทยนะคะ แล้วก็เป็นวันผู้สูงอายุด้วย ทำให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน” ในขณะที่มีบุตรชายล้างเท้าให้ สามีก็กำลังล้างเท้าให้คุณแม่ของเขาเช่นกัน อาศัยการทำให้เห็นเป็นแบบอย่าง เพื่อสอนลูกๆ ถึงความสำคัญของ “กตัญญู กตเวที”
▲อาสาสมัครฉือจี้ต้อนรับผู้มาร่วมพิธีร่มโพธิ์ร่มไทร ด้วยความอ่อนโยนและเป็นกันเอง
การป้อนน้ำชา ป้อนขนมและการล้างเท้าอย่างทะนุถนอมจากผู้เป็นลูก ทำให้คุณสุดารัตน์ คงแสง รู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง การว่านอนสอนง่ายของบุตรสาว ทำให้ผู้เป็นแม่ปราศจากความกังวล คุณสุดารัตน์กล่าวว่า “แม่เป็นห่วงลูกเสมอ โดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ในฐานะที่เราเป็นแม่ ก็จะยิ่งพยายามอยู่ใกล้ชิดลูกให้ได้มากที่สุดค่ะ” การเคียงข้างบุตรสาวที่เป็นวัยรุ่นอายุ 16 ปี เป็นบททดสอบความเป็นแม่ครั้งใหม่ เนื่องจากกังวลถึงสภาพแวดล้อมของสังคม ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อบุตรสาว ดังนั้น การเข้าร่วม “พิธีร่มโพธิ์ร่มไทร” ในวันนี้จึงเป็นโอกาสอันดี ที่ได้เน้นย้ำถึงความรักจากคนในครอบครัว
▲พระเกษมพันธ์ สุธีโร รองเจ้าอาวาสวัดทุ่งลานนา ให้โอวาสและอวยพรแก่ผู้เข้าร่วมพิธี
แม้คุณสุดารัตน์จะไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงวัดทุ่งลานนา แต่ด้วยบุญสัมพันธ์ที่ได้พาครอบครัวกลับมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในวันนี้ ทำให้มีโอกาสได้ร่วม “พิธีร่มโพธิ์ร่มไทร” ร่วมสัมผัสบรรยากาศวันสงกรานต์แห่งความสำนึกคุณ บุตรสาวเองก็บอกกับคุณแม่ว่า ตนเองตระหนักดีว่าคุณแม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อครอบครัวมากเพียงใด และจากสิ่งที่คุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกกตัญญูมาโดยตลอด ตนเองให้ฐานะลูก ก็จะขอใช้การกระทำพิสูจน์ถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่ โดยจะไม่มีวันทำให้คุณแม่ต้องกังวลใจ
▲อาสาสมัครจัดพิธีร่มโพธิ์ร่มไทร อาศัยการเช็ดมือ เสิร์ฟน้ำและป้อนขนม เป็นต้น ร่วมกันฉลองวันสงกรานต์แห่งความสำนึกคุณ
▲ผู้เป็นลูกล้างเท้าให้กับพ่อแม่ แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี
▲เด็กชายกฤตภาส ชูเดช วัย 8 ขวบ ตั้งใจล้างเท้าให้กับคุณแม่ด้วยความตั้งใจ พร้อมทั้งรำลึกถึงพระคุณของท่าน
▲เสิร์ฟน้ำชาและป้อนขนม แสดงความขอบพระคุณจากหัวใจ
▲ก้มกราบร่มโพธิ์ร่มไทร รำลึกพระคุณอันยิ่งใหญ่
▲ในวันผู้สูงอายุและวันหยุดสงกรานต์ อาสาสมัครต่างมาร่วมทำงานเสียสละด้วยจิตใจที่เปี่ยมด้วยความปีติสุข
เรื่อง บุษรา สมบัติ
ภาพ บุษรา สมบัติ
งาน 60 พระปริยัติน้อมมนัสเทิดไท้ 60 พรรษา
ร่วมเผยแผ่พุทธธรรม ถวายหนังสือ “วิถีครูผู้ประเสริฐ” แก่โรงเรียนพระปริยัติธรรม
ข่าวในพระราชสำนัก วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 รายงานว่า เมื่อเวลา 08.38 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดนิโครธาราม ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ในการพัฒนาการศึกษาสามเณรนักเรียนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ฉบับที่ 4 พุทธศักราช 2550 ถึง 2559
กิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรี ครั้งที่ 15
รักษาพยาบาลฟรีฉือจี้ บริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม
ทุกคนคือ “ฟันเฟือง” ที่สำคัญ
จากการมอบหนังสือ “จิ้งซืออวี่” (วาทะจิ้งซือ) ให้กับโรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพมหานคร เมื่อปลายปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมา ทำให้อาสาสมัครฉือจี้มีโอกาสได้ผูกบุญสัมพันธ์กับ คุณภูมิ บุณยะวุฒกุล ซึ่งขณะนั้นเป็นหนึ่งในบุคลากรของโรงแรม ต่อมาภายหลังได้ทราบว่า ทุกวันอาทิตย์ที่สี่ของเดือน อาสาสมัครฉือจี้ในประเทศไทย จะจัดกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ทำให้คุณภูมิ นอกจากจะยินดีอุทิศแรงกายแรงใจ มาร่วมเป็นจิตอาสาในกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ยังได้ชักชวนเพื่อนซึ่งเป็นแพทย์ให้มาทำงานเสียสละร่วมกันอีกด้วย
แบ่งปันแนวคิดจิตอาสาฉือจี้ ณ โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ทำความดีต้องมีฉัน แป่งปันแนวคิดจิตอาสาฉือจี้ ณ โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ด้วยคณะผู้บริหารของโรงพยาบาลสมุทรสาคร ได้เดินทางไปศึกษาดูงานฉือจี้ที่ไต้หวันหลายครั้ง จนเกิดความประทับใจจึงอยากให้ที่โรงพยาบาลสมุทรสาครมีจิตอาสาบ้าง และเมื่อทราบว่าที่โรงพยาบาลโพธารามมีการทำกิจกรรมของจิตอาสาฉือจี้ ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล นายแพทย์โมลี วนิชสุวรรณ จึงได้ติดต่อผ่านจิตอาฉือจี้ คือ ท่านนายแพทย์สมบูรณ์ นันทานิช อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธาราม
ความรักอันยิ่งใหญ่ของแพทย์ผู้ประเสริฐ ร่วมออกหน่วยแพทย์ดูแลสุขภาพผู้ลี้ภัย
ความรักอันยิ่งใหญ่ของแพทย์ผู้ประเสริฐ ร่วมออกหน่วยแพทย์ดูแลสุขภาพผู้ลี้ภัย
การมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดซึ่งห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร เมื่อตนเองหรือญาติพี่น้องเจ็บไข้ได้ป่วย จึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากลำบาก นี่จึงเป็นมูลเหตุให้ นพ.สุรพงษ์ บุญประเสริฐ มีความใฝ่ฝันที่จะเป็น “แพทย์”
กิจกรรมอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่และจำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศลของโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ครูและนักเรียนรวมใจ จำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศล
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ได้จัดกิจกรรม “อธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” และใช้ช่วงเวลาแห่งความสิริมงคลนี้ จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศลไปในขณะเดียวกัน
ฉือจี้เยี่ยมเยียนและมอบเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือโดยสารระเบิด
ความรักอันยิ่งใหญ่ จะคงอยู่เสมอ
จากเหตุการณ์เรือโดยสารระเบิด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทยและอาสาสมัครฉือจี้ จึงรีบติดต่อประสานงานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ที่ผู้บาดเจ็บเข้าพักรักษาตัว จนกระทั่งได้รับอนุญาตจากทางโรงพยาบาลเพชรเวช ให้เข้าเยี่ยมเยียนดูแลผู้บาดเจ็บ 4 ราย และปลอบโยนให้กำลังใจแก่ญาติมิตร เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
พิธีอธิษฐานบุญ อวยพรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2559
อธิษฐานบุญอวยพรต้อนรับปีใหม่ ความอบอุ่นใจเปี่ยมสถานธรรม
ย้อนกลับไปในวันที่ 9 เดือน 2 ตามปฏิทินจันทรคติ เมื่อ พ.ศ.2512 ก่อนการมอบสิ่งของช่วยภัยหนาวในสมณารามจิ้งซือเพียงหนึ่งวัน ซึ่งเป็นวันที่การเตรียมงานทุกอย่างเสร็จสิ้นลง
กิจกรรมขอบคุณคุณครูและกิจกรรมปัจฉิมนิเทศ
ผลิตผลทางการศึกษา “แสงแห่งรุ่งอรุณ” ผลิดอกออกใบอย่างสง่างาม
สิ้นสุดแต่ละปีการศึกษา ผลผลิตทางการศึกษาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่น ในโอกาสที่สำเร็จการศึกษาไปอีกหนึ่งขึ้นนี้ นักเรียนจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ร่วมใจกันจัดกิจกรรม“ขอบคุณคุณครู” เพื่อแสดงความขอบคุณในความทุ่มเทของคุณครูทุกท่าน
กิจกรรมต้อนรับกรรมการใหม่ประจำปี 2559
เริ่มต้นรับหน้าที่ ญาติธรรมฉือจี้ปีติรับกรรมการใหม่2016
สิ้นสุดการเรียนรู้ในชั้นเรียนอบรม แสดงถึงการแบกรับภาระงานฉือจี้ สานต่อปณิธานของท่านธรรมาจารย์เริ่มต้นขึ้นแล้ว อาสาสมัครฉือจี้ในเมืองไทยใช้ช่วงเวลาแห่งความสุข ใกล้ถึงวันตรุษจีนนี้ ร่วมใจกันจัดกิจกรรมต้อนรับกรรมการใหม่ด้วยความปีติ ณ สถานธรรมจิ้งซือแห่งใหม่เป็นครั้งแรก “แต่ก่อนอาสาสมัครต้องเดินทางไกลกันพอสมควร พอมาจัดกิจกรรมที่นี่ เสมือนเป็นการรวมใจอาสาสมัครฉือจี้ ทำให้รู้สึกประทับใจและรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่น" อาสาสมัครฉือจี้ คุณจารุวรรณ หีบท่าไม้ หัวหน้าฝ่ายอบรมอาสาสมัครแบ่งปัน
กิจกรรมยกน้ำชาสำนึกคุณ โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่
ยกน้ำชาสำนึกคุณ กตัญญูบิดรมารดา
ก่อนการเรียนในแต่ละภาคเรียนจะสิ้นสุดลง โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่มักจะจัดกิจกรรม “ยกน้ำชาสำนึกคุณ” เพื่อให้นักเรียนได้แสดงออกถึงความกตัญญู และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นักศึกษามหาวิทยาลัยฉือจี้ไต้หวันลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ยากไร้
เยี่ยมเยียนผู้ยากไร้ สัมผัสประสบการณ์ “เห็นทุกข์ รู้บุญ” ในต่างแดน
22-25 มกราคม ที่ผ่านมา คณะอาจารย์และนักศึกษาสาขาสังคมสงเคราะห์ จากมหาวิทยาลัยฉือจี้ไต้หวันได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนฉือจี้ในเมืองไทย เพื่อเรียนรู้การทำงานสังคมสงเคราะห์ สัมผัสประสบการณ์ “เห็นทุกข์ รู้บุญ” ในต่างแดน หวังนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ จุดประกายความดีงามในจิตใจ ก่อประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่นให้มากยิ่งขึ้น
24 มกราคม หลังจากร่วมกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรีด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจแล้ว รุ่งเช้าในวันต่อมา (25 มกราคม) อาจารย์และนักศึกษายังได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ยากไร้ โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
การอบรมอาสาสมัครฉือจี้ขั้นต้น “การอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพุทธฉือจี้รุ่นที่ 1/2559
อบรมจิตอาสาฉือจี้ขั้นต้น เริ่มต้นการทำงานเพื่อสังคม
“ความงดงามของมวลรวม เกิดขึ้นจากการบำเพ็ญตนของแต่ละบุคล” ในชั้นเรียน “การอบรมเชิงปฏิบัติการอาสาสมัครพุทธฉือจี้รุ่นที่ 1/2559” วันที่ 3 ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นการบรมอาสาสมัครฉือจี้ขั้นต้นวันสุดท้าย ผู้เข้าอบรมทุกคนต่างก็ตื่นเต้น ที่จะได้สวมเครื่องแบบเสื้อเทา กางเกงขาว โดยหลายท่านได้สวมกางเกงขาว และร้องเท้าขาวมาจากบ้าน และดูแลความเรียบร้อยของบุคลิกภาพภายนอกให้สง่างาม
กิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรี ครั้งที่ 13
ยากแบกรับภาระค่ารักษา รักษาพยาบาลฟรีฉือจี้สงเคราะห์ผู้ลี้ภัย
เริ่มต้นปีใหม่ อาสาสมัครฉือจี้ในประเทศไทย ต่างร่วมแรงร่วมใจ จัดกิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรีขึ้น ณ สถานธรรมจิ้งซืออย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แม้วันนี้อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว นำความหนาวเหน็บมาให้ ทว่าด้วยความเอาใจใส่ของทั้งชาวฉือจี้ คณะอาจารย์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฉือจี้ไต้หวันและบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้เข้ารับบริการซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องผู้ลี้ภัย ต่างสัมผัสได้ถึงความรักและความอบอุ่น