เรียนรู้จากการบริการผู้อื่น พัฒนาตนเองจากการเสียสละ

20161015-90-bydatchanee

“ทางเต็นท์ขอชุดเครื่องเสียงและไมโครโฟนเพิ่มอีกหนึ่งชุดค่ะ” อาสาสมัครฉือจี้ คุณหธญา ริมพนาเวศ แปลคำร้องขอจากอาสาสมัครฉือจี้ชาวไต้หวันที่ได้ยินจากวิทยุสื่อสารเป็นภาษาไทย เพื่อแจ้งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ให้ช่วยดำเนินการต่อไป

ระหว่างกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ภายในห้องโถงอันกว้างใหญ่ของสถานธรรมจิ้งซือ ได้ถูกจัดวางไว้ด้วยห้องตรวจรักษาเกือบยี่สิบห้อง โดยคุณหธญา มักจะเดินถือวิทยุสื่อสาร เดินทะลุไปตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยประสานงานให้กับแพทย์พยาบาล และผู้ลี้ภัยที่มารับการตรวจรักษา รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ให้กับบรรดาคณะทำงาน

 

พ.ศ.2558 เมื่อกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีเริ่มต้นขึ้น อาสาสมัครฉือจี้ คุณหธญา จึงเริ่มเข้ามาเรียนรู้การทำงาน จากเดิมทีได้ประจำอยู่ตรงจุดลงทะเบียน ที่จะค่อนข้างยุ่งเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น แต่เมื่อแผนผังสถานที่ และหน้าที่แผนกต่างๆ ในกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี ได้ปรับเปลี่ยนไปตามความคืบหน้าการก่อสร้างสถานธรรมจิ้งซือ ภายหลังคุณหธญา จึงได้เข้ามาช่วยหน้าที่ประสานงานหน้าห้องตรวจตลอดทั้งวัน

คุณหธญาอธิบายถึงรายละเอียดงานของตนเองว่า “ตอนนี้มีโอกาสได้มาช่วยทำงานประสานงานกับแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายภายในห้องตรวจ โดยจะช่วยดูแลความเรียบร้อยระหว่างผู้ให้บริการกับคนไข้ และจะช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ ค่ะ” ซึ่งระหว่างกิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี คุณหธญาก็มักจะพบเจอกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ช่วยให้มีโอกาสได้พัฒนาตนเอง

เนื่องจากมีคุณแม่คือ คุณสุกัญญา ริมพนาเวศ เป็นชาวฉือจี้ ทำให้คุณหธญา ซึ่งเริ่มเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา เมื่อ พ.ศ.2547 ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแสดงประกอบพระสูตรกตัญญุกตเวฑิตาสูตรเพื่อการกุศล ช่วยระดมทุนเพื่อก่อสร้างโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ คุณหธญาเล่าถึงความทรงจำในช่วงเวลาดังกล่าวว่า ในตอนนั้นตนเองไม่รู้จัก “ฉือจี้” มาก่อน เพียงแต่โดนขอให้มาช่วยร่วมแสดง ทว่าระหว่างการฝึกซ้อม ได้รับชมภาพวีดิทัศน์การแสดงของไต้หวัน และการซักซ้อมครั้งแล้วครั้งเล่า ความหมายอันลึกซึ้งของคำร้อง ทำให้ตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งตระหนักว่าควรที่จะทำความดีและทดแทนบุญคุณอย่างทันท่วงที คุณหธญาเล่าว่า “ต่อมาเราก็กลับไปบอกรักแม่ คิดว่าท่านเองก็คงจะรู้สึกตกใจ เพราะว่าในตอนนั้น เรายังไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมาก” คุณหธญาในวัย 16 ปี ซึ่งไม่ชอบแสดงออกถึงความรู้สึกกับคนในครอบครัว แต่อาศัยการติดตามคุณแม่ ทำให้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของฉือจี้ทั้งในเมืองไทยและไต้หวัน

 20041031-992

คุณหธญา ริมพนาเวศ(คนที่ 3 จากซ้าย) เข้าร่วมการแสดงภาษามือประกอบพระสูตรเพื่อการกุศล (กตัญญุตากตเวทิตาสูตร)  ระดมทุนก่อสร้างโรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ 

 

บริการช่วยเหลือผู้อื่น เรียนรู้พัฒนาตนเอง

“อะไรคือฉือจี้” หรือ “ฉือจี้ทำอะไรบ้าง” คำถามเหล่านี้ติดค้างอยู่ภายในใจของคุณหธญามาโดยตลอด จากนั้นจึงแบ่งปันถึงความเป็นมา ที่ทำให้มีโอกาสรู้จักฉือจี้มากยิ่งขึ้นว่า “ที่บ้านมีหนังสือภาษาอังกฤษเกี่ยวกับท่านธรรมาจารย์ ที่แปลมาจากภาษาจีนอยู่ประมาณ 1-2 เล่ม ซึ่งพอได้อ่านแล้วก็เลยทำให้รู้สึกสนใจ และเข้าใจเรื่องราวของฉือจี้มากขึ้น จนรู้สึกอยากจะมีส่วนร่วมค่ะ”

หลังจากพายุมรกตพัดถล่มไต้หวันเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2552 คุณหธญาได้มีโอกาสติดตามสมาคมมิตรฉือจี้เดินทางไปช่วยทำความสะอาดพื้นที่ประสบภัย โดยเล่าถึงความรู้สึกในตอนนั้นว่า “ตอนทำความสะอาด ก็ช่วยกวาดด้วยความตั้งใจสุดๆ ค่ะ กวาดไปหัวโล่งมาก รู้สึกใจสงบ ไม่ได้มีคิดเลยว่ามันสกปรก มันเหม็น หรือมันเหนื่อย ในจุดที่ยืนตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสภาพพื้นที่แบบนั้นด้วยตาตัวเอง” ทุกคนต่างก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครองร่างกาย มีเพียงสิทธิ์ใช้ร่างกายให้มีคุณค่า แม้จะอยู่ในพื้นที่ประสบภัยเพียงแค่วันเดียว แต่คุณหธญาก็ทุ่มเทอย่างสุดกำลังความสามารถ เพื่อให้เวลาหนึ่งวันนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประสบภัย

 

S  6955059

ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2552 เมื่อพายุไต้ฝุ่นมรกตพัดถล่มไต้หวัน คุณหธญา ริมพนาเวศ ได้ไปช่วยทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย

 

พ.ศ.2553 หลังจากคุณหธญาสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ด้วยคำเชิญชวนจากอาสาสมัครฉือจี้ในไต้หวัน จึงได้มีโอกาสเดินทางกลับไปเรียนรู้การเป็นอาสาสมัครร้านหนังสือจิ้งซือที่ไต้หวันต่อเนื่องถึงสามเดือน ประจวบกับเมื่อร้านหนังสือจิ้งซือในเมืองไทยเปิดทำการ คุณหธญาจึงได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากไต้หวัน มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

คุณหธญาเล่าว่า “หลังจากช่วยงานฉือจี้ไปพักหนึ่ง ก็รู้สึกว่าเราช่วยอะไรอาสาสมัครคนอื่นๆ ได้ไม่มาก เพราะว่าในฉือจี้ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากไต้หวัน ยังคงจำเป็นต้องใช้ภาษาจีนอยู่ ซึ่งเราสามารถฟังพูดอ่านเขียนภาษาไทยกับภาษาอังกฤษได้ แต่สำหรับภาษาจีน สามารถฟังกับพูดได้ แต่ยังเขียนกับอ่านได้ไม่มาก ดังนั้นเพื่อพัฒนาตนเอง จึงเดินทางกลับไปเรียนภาษาจีนที่ไต้หวันนานเก้าเดือน”

 20101114-1783-byming

จากความซาบซึ้งใจสู่การลงมือปฏิบัติ คุณหธญา ริมพนาเวศ เข้าร่วมกิจกรรมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

 20100711-2225-bylek

คุณหธญา ริมพนาเวศ นำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากร้านหนังสือจิ้งซือไต้หวัน มาประยุกต์ใช้ในร้านหนังสือจิ้งซือเมืองไทย

 

นอกจากเข้าศึกษาชั้นเรียนภาษาจีนและอบรมครูสอนภาษาจีน ในศูนย์การเรียนการสอนภาษา ณ มหาวิทยาลัยฉือจี้แล้ว คุณหธญา ยังอาศัยช่วงเวลานี้เข้ารับการอบรมกรรมการฉือจี้ ซึ่งทำให้ยิ่งตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต ไม่เพียงได้พัฒนาตนเอง แต่ยังได้บริการช่วยเหลือผู้อื่นไปด้วยพร้อมกัน โดยคุณหธญาแบ่งปันว่า “เหมือนเราได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ในระหว่างที่เรามาเป็นอาสาสมัคร มาบริการคนอื่นค่ะ”

ในระหว่างที่ลงมือปฏิบัตินี้ ในที่สุดคุณหธญาก็ค้นพบคำตอบว่า “ฉือจี้” คืออะไร “ก่อนที่เราจะทุ่มเทอะไร เราก็ต้องเข้าไปศึกษาก่อน ซึ่งหลังจากที่ได้เข้ามาทำด้วยตนเองแล้ว ก็พบว่าทุกอย่างที่ฉือจี้ทำนั้น มันล้วนเป็นสิ่งที่มีความหมาย มันได้ช่วยเหลือคนจริงๆ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงอยู่” คุณหธญาบอกเล่าถึงคำตอบที่ตนเองค้นพบ

“กล้ารับภาระหน้าที่ ยินดีร่วมมือสนับสนุน” หลังจากเดินทางกลับมาประเทศไทย คุณหธญายังได้มีโอกาสเดินทางไปเป็นคุณครูสอนภาษาจีนให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น รวมถึงสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่ ด้วยหัวใจที่คิดว่า “ควรทำ” ไม่ว่าจุดไหนต้องการกำลังสนับสนุน ก็ยินดีที่จะเป็นกำลังเสริมให้เสมอ ทำงานอาสาสมัครฉือจี้ด้วยความสุข

20151103-05-bywangchunghsien

คุณหธญา ริมพนาเวศ ช่วยเหลือประสานงานและพาผู้ป่วยไปเข้ารับการผ่าตัดรักษาตาต้อกระจก จนสามารถกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง

 

จริงจัง ตั้งใจ ในทุกเรื่อง

เมื่อมีศักยภาพ สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือมีความรักอันยิ่งใหญ่ หัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตานี้ อาจจะเพราะได้รับการบ่มเพาะมาจากครอบครัว คุณหธญากล่าวว่า “เราเห็นแม่ทำมาตั้งแต่เรายังไม่รู้ว่าอะไรคือฉือจี้ใช่มั้ยคะ ก็รู้สึกว่าเขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้เราเห็นว่า การมีจิตอาสาการช่วยเหลือคนอื่นนั้น ทำให้เกิดความสุขใจได้ขนาดไหน”

ภาระหน้าที่ต่างๆ ภายในกิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรี ยังเป็นบททดสอบไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อแบกรับภาระหน้าที่ จึงมีโอกาสได้แสดงศักยภาพแห่งชีวิต และจากการร่วมทำงานรักษาพยาบาลฟรี ทำให้คุณหธญาได้มีโอกาสร่วมงานกับองค์กรอื่นๆ ที่ร่วมดูแลผู้ลี้ภัย และจากการบอกต่อของพวกเขา ทำให้คุณหธญาได้สวมบทบาทเป็นสะพานบุญ เพื่อนำความช่วยเหลือที่เหมาะสมไปมอบแก่ผู้ลี้ภัยได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยประสานให้ผู้ลี้ภัย 6 คนได้รับการผ่าตัดรักษาตาต้อกระจก และได้กลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือความเป็นอยู่ของทั้งครอบครัวแบบครบวงจร ทั้งการซ่อมบ้านพักอาศัย การมอบอุปกรณ์การรักษาพยาบาลและสิ่งของเครื่องในชีวิตประจำวัน แบ่งเบาภาระให้กับสมาชิกในครอบครัวนับสิบคน

“เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนพวกเขาแค่ไม่กี่ครั้ง แต่กลับสร้างความซาบซึ้งใจให้กับทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเขาไม่เพียงร่วมหยอดกระปุกออมบุญ แต่ยังยินดีเดินทางจากที่พัก เพื่อนำหยาดหยดธารน้ำใจในกระปุก มาบริจาคสมทบให้กับมูลนิธิ” คุณหธญาแบ่งปันถึงหนึ่งในเรื่องราววัฏจักรแห่งความดี ที่เกิดขึ้นจากการดูแลด้วยความรักอันจริงใจของชาวฉือจี้

คุณหธญาซึ่งจริงจัง ตั้งใจ ในทุกเรื่อง ยังได้แบ่งปันถึงความตั้งใจของตนเองว่า “กิจกรรมรักษาพยาบาลฟรี ซึ่งเราได้มีโอกาสร่วมทำงานมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงตั้งใจว่า จะขอทำเรื่อยไป จนกระทั่งไม่มีงานอะไรให้ทำแล้วค่ะ”     

 20161210-291-bywhanlop

คุณหธญา ริมพนาเวศ ร่วมมอบสิ่งของช่วยภัยหนาว ณ โรงเรียนฉือจี้เชียงใหม่


 20150125-79-bypolsak

คุณหธญา ริมพนาเวศ เข้ามาช่วยประสานงานตามจุดต่างๆ ของกิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรี โดยมูลนิธิฉือจี้  

 

 20151107-06-byxiaolian

เมื่อเห็นผู้ยากไร้ที่เคยทุกข์กังวลเริ่มมีรอยยิ้มหลังจากบ้านที่ผุพังได้รับการช่วยเหลือซ่อมแซมจากฉือจี้ คุณหธญา ริมพนาเวศ ที่หมั่นไปเยี่ยมเยือนดูแลก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย

 

20160508-221-byjanyaporn 

คุณหธญา ริมพนาเวศ ช่วยประคองผู้สูงอายุที่เดินเหินไม่สะดวก ในกิจกรรมมอบข้าวสารช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย