จิตอาสาต่างชาติร่วมกิจกรรมรักษาพยาบาล ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจปีติสุข

20160124-256-bylek resize

 

 ทุ่มเทเสียสละดั่งหน้าที่ตน ช่วยเหลือผู้คนดั่งญาติมิตร

หากแพทย์เริ่มตรวจรักษาผู้ป่วยแล้ว ความยุ่งวุ่นวายที่จุดรับยา ซึ่งเป็นจุดบริการทางการแพทย์จุดสุดท้ายของกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อผู้มารับบริการรักษานำใบสั่งยามาส่ง เภสัชกรก็จะนำรายการยาคีย์เข้าระบบ จากนั้นดำเนินการจัดยา และจ่ายให้ผู้มารับบริการรักษา พร้อมชี้แจงถึงวิธีการให้กับพวกเขา แม้ว่าผู้มารับบริการรักษาในแต่ละครั้งจะมีจำนวนมาก ทำให้เภสัชกรที่มาช่วยงานต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งวัน จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ทว่า ทุกท่านยังคงยินดีทุ่มเทเสียสละ ร่วมผลักดันให้กิจกรรมสำเร็จลุล่วงได้อย่างราบรื่น
“คุณฮูฉีเป่า” หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า “ไอริส” จิตอาสาจากประเทศเมียนมาร์ เดินทางมาเรียนปริญญาโทที่เมืองไทยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ในยามที่อยู่ในเมียนมาร์อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน คุณฮูฉี่เป่ามักจะดูรายการของทีวีต้าอ้าย ทำให้เข้าใจเรื่องราวของฉือจี้ และทราบว่ามีมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในเมืองไทย
เมื่อมาเรียนในเมืองไทยแล้ว คุณฮูฉีเป่าต้องการใช้เวลาว่างในวันเสาร์-อาทิตย์ ร่วมทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น จึงได้ค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต และเขียนอีเมลล์ติดต่อมายังมูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย จากการพูดคุยทำให้ทราบว่า คุณฮูฉี่เป่าเป็นเภสัชกร อาสาสมัครจึงแนะนำและเชิญชวนคุณฮูฉีเป่ามาร่วมกิจกรรมบริการชุมชนรักษาพยาบาลฟรี คุณฮุฉีเป่าก็ตอบรับทันทีโดยไม่ลังใจ
หลังจากตอบรับคำเชิญชวนแล้ว คุณฮูฉี่เป่าก็ท่องนัดหมายกิจกรรมขึ้นใจ จึงจะเห็นว่า คุณฮุฉีเป่าก็มาร่วมกิจกรรมทุกครั้งตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาเป็นต้นมา โดยในระหว่างเดือนคุณฮูฉีเป่าจะพยายามสะสางงานและแบ่งเวลาให้เรียบร้อย เพื่อจะมาร่วมกิจกรรมได้อย่างสบายใจ เมื่อได้มาร่วมกิจกรรม คุณฮูฉีเป่าจะคิดเสมอว่า งานจ่ายยาให้ผู้มารับบริการรักษา เป็นหนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบของตน ดังนั้น คุณฮูฉีเป่าจึงให้บริการพวกเขาด้วยความตั้งใจ และใส่ใจดั่งญาติมิตร คุณฮูฉีเป่า แบ่งปันว่า “ถ้าฉันไม่มา ก็คงไม่ได้ทำงานช่วยเหลือพวกเขา ไม่ได้ช่วยจ่ายยา ชี้แจงวิธีการใช้ยาให้พวกเขา ดังนั้น ฉันจึงต้องมาช่วยกิจกรรมในทุกๆครั้ง”

 

ครอบครัวแห่งรักอันยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยความอบอุ่น

ไม่เพียงได้บรรลุให้หน้าที่ความรับผิดชอบ หากแต่การมาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี ยังเป็นช่วงเวลาที่คุณฮูฉีเป่ารอคอย เพราะการมาร่วมกิกจรรมช่วยเหลือผู้อื่นนั้น ทำให้จิตใจเต็มไปด้วยความปีติ คุณฮูฉี่เป่าแบ่งปันว่า “ฉือจี้ก็เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง เมื่อมาร่วมกิจกรรมที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวันในประเทศไทย ฉันรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง มีความสุขเหมือนกับได้อยู่ในครอบครัวใหญ่เลยค่ะ” ดังนั้น ในบางครั้งที่คุณฮูฉีเป่าเดินทางมาถึงแต่เช้า คุณฮุฉีเป่าจะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ โดยจะใช้ช่วงเวลาก่อนเริ่มการตรวจรักษา มาช่วยงานเตรียมอาหาร และพูดคุย สนทนาภาษาจีนกับอาสาสมัคร เมื่อการตรวจรักษาเริ่มขึ้น คุณฮูฉีเป่าก็จะกลับไปช่วยงานจ่ายยาตามเดิม
เนื่องด้วยคุณฮูฉีเป่ามาร่วมกิจกรรมอยู่เป็นประจำ ผู้ป่วยที่มารับบริการรักษาซ้ำจึงอาจจะจำเธอได้ เมื่อได้พบเจอกันในแต่ละครั้ง จึงมีผู้ป่วยบางคนกล่าวคำทักทายเธอว่า “สวัสดีค่ะ/ครับ เดือนที่แล้วคุณก็มา วันนี้คุณก็มา ดีจังเลย” ความเป็นกันเองเช่นนี้ ทำให้คุณฮูฉีเป่ารู้สึกปีติ และมีความสุขที่ได้เห็นพวกเขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงในทุกครั้งที่พบเจอกัน
เจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลือกิจกรรมในจุดรับยา ล้วนเป็นเภสัชกรจากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว แม้ว่าการสื่อสารต่อกันด้วยภาษาอังกฤษ อันเป็นภาษาที่สองของทุกคนจะไม่ค่อยสะดวกนัก ทว่าทุกคนก็ยังคงช่วยเหลือทำงานอย่างสามัคคี ทุกๆครั้งที่มาร่วมกิจกรรม คุณฮูฉีเป่ายังรู้สึกได้ถึงว่า ทุกคนต่างเห็นว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในจุดรับยา เช่นในบางครั้งอาจจะเจ้าหน้าที่คนใหม่มาร่วมกิจกรรม พวกเขาก็มักจะแนะนำให้รู้จักว่า “ไอริส นี่คือเจ้าหน้าที่คนใหม่ มาทำความรู้จักกันหน่อย” ด้วยความเป็นกันเองเช่นนี้ ทำให้ทุกคนสนิทสนมกัน เมื่อได้มาเจอกันในแต่ละเดือน จึงมีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังมากมายไม่รู้จบสิ้น คุณฮูฉี่เป่ายังคิดว่าการมาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรี เป็นโอกาสอันดีให้ผูกบุญสัมพันธ์อันดีกับผู้คนมากมาย และมีเพื่อนที่ดีเพิ่มมากขึ้น แต่งเติมสีสันในการศึกษาเล่าเรียนในต่างแดน

 

นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ ปรับเปลี่ยนความคิด

“ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ในทุกๆวัน” คือสิ่งที่คุณฮูฉีเป่าตั้งใจและปฏิบัติเรื่อยมา มิใช่ทำเพื่อตนเอง หากสิ่งที่ตนเองทำแล้วก่อประโยชน์ต่อผู้อื่น ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีงาม คุณฮูฉี่เป่า ซึ่งเดิมทีเป็นคนมีกุศลจิต จึงชื่นชอบการมาร่วมกิจกรรมช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ย้อนกลับไปไม่ว่าจะเป็นช่วงเรียนมัธยม หรือมหาวิทยาลัย คุณฮูฉีเป่ามักจะใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอม หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ไปร่วมออกหน่วยรักษาพยาบาลในพื้นที่ต่างๆของเมียนมาร์ จากการร่วมกิจกรรมดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง ไม่เพียงได้ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ภาพความขาดแคลน ความยากจนที่พบเห็น ยังช่วยเตือนใจให้คุณฮูฉีเป่าเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คุณฮูฉีเป่าแบ่งปันว่า “แม้ในตอนนี้เราจะกินดีอยู่ดี แต่อีกด้านหนึ่งบนโลกนี้ ยังมีผู้คนอดอยาก ยากจน เจ็บป่วยอีกมากมาย ฉะนั้น ฉันจึงบอกตัวเองว่า เราจะใช้ทรัยากรสิ้นเปลืองไม่ได้อีกแล้ว

 

จิตอาสาซึ่งมาร่วมกิจกรรมบริการชุมชน รักษาพยาบาลฟรีอยู่บ่อยครั้ง กลายเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในจุดรับยา

 

หากมาถึงสถานที่ตั้งแต่เช้า จะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ โดยจะมาช่วยงานเตรียมอาหาร พูดคุยทักทายอาสาสมัคร

 

ในระหว่างที่ช่วยเหลืองานในจุดรับยา ยังรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง ทุกคนล้วนสามัคคี ช่วยเหลือกันและกัน