บทเรียนจากกุ้งเผา สู่การงดกินเนื้อสัตว์

 

20200531 cover-02

“เมื่อก่อนฉันจะงดเนื้อสัตว์ เฉพาะช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น แต่เมื่อมาฟังการบรรยายของจิตอาสาฉือจี้แล้ว จึงงดกินเนื้อสัตว์เรื่อยมาค่ะ” นี่คือจุดเริ่มต้นของการหันมารับประทานมังสวิรัติอย่างต่อเนื่องของคุณเพ็ญนภา บุญยี่สุ่น


 

 

จากการเข้าร่วมอบรมจิตอาสาตามแนวพุทธฉือจี้ ณ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมื่อปี 2554 ตลอดระยะเวลาสองวันของการอบรม ทำให้คุณเพ็ญนภาได้สัมผัสถึงความปีติ ของการรับประทานอาหารมังสวิรัติ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและจุดประกายให้คุณเพ็ญนภา เลิกรับประทานเนื้อสัตว์มาจนถึงทุกวันนี้

“สิ่งที่ถูกต้อง ลงมือทำย่อมถูกต้องแล้ว” แม้การอบรมจะสิ้นสุดลง แต่คุณเพ็ญนภาได้นำการรับประทานอาหารมังสวิรัติมาปรับสู่การดำเนินชีวิตของตนเอง เนื่องจากในช่วงเทศกาลกินเจ เคยปรุงอาหารเองเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ทำให้คุ้นชินกับรสชาติอาหารเจเป็นอย่างดี ทว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ไม่ราบรื่นเหมือนอย่างที่คิด เมื่อสามี คุณอุเทน บุญยี่สุ่น ไม่เห็นด้วยกับการงดกินเนื้อสัตว์ของคุณเพ็ญนภา

20140118-170-bywuttisit

 

ยืดหยัดไม่ย่อท้อ ชักชวนสามีร่วมงดเนื้อสัตว์

แม้สามีจะยินดีให้คุณเพ็ญนภา มาร่วมทำงานจิตอาสาช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากกับชาวฉือจี้ แต่กลับต่อต้านการงดกินเนื้อสัตว์ คุณอุเทนบอกเล่าความคิดเห็นของตนเองในช่วงเวลานั้นว่า “เนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะไก่ หมูหรือปลา ล้วนมีไว้ให้คนกิน เราก็ต้องกิน ผมไม่ชอบให้ภรรยากินเจ ผมก็เลยบ่นว่า บอกไม่ให้เขากิน”

เมื่อไม่เห็นด้วยที่ภรรยางดรับประทานเนื้อสัตว์ คุณอุเทนจึงตำหนิและพร่ำบ่นต่างๆ นานา จนถึงขั้นที่คุณเพ็ญนภาเคยต้องแอบไปร้องไห้เพียงลำพัง แต่ถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจจากสามีก็ไม่สามารถบั่นทอนความตั้งใจของคุณเพ็ญนภาให้ลดน้อยลงไปได้ เนื่องจากคุณอุเทนรับราชการทหาร ต้องออกไปทำงานทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลานี้คุณเพ็ญนภาจึงงดกินเนื้อสัตว์ได้โดยไม่มีปัญหา แต่เมื่อสามีหยุดอยู่บ้านในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในครอบครัว คุณเพ็ญนภาจึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์ร่วมกับสามี อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางคำพร่ำบ่นของสามี คุณเพ็ญนภาก็ยังคอยสรรหาสารพัดวิธีการ เพื่อโน้มน้าวจิตใจให้คุณอุเทน เข้าใจถึงประโยชน์ของการงดกินเนื้อสัตว์อยู่เสมอ ทั้งพูดเชิญชวน และหลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งขายอาหารที่มีเนื้อสัตว์ รวมถึงให้สามีได้สัมผัสความรู้สึกเจ็บปวดของเหล่าสรรพสัตว์ด้วยตนเอง

คุณอุเทนหวนเล่าเรื่องราวในอดีตว่า วันหนึ่งตนเองและภรรยาไปเดินตลาด เห็นแม่ค้าขายกุ้งสดๆ ตัวเป็นๆ ก็นึกอยากกินกุ้งเผาอร่อยๆ เมื่อกลับถึงบ้าน ขณะที่ช่วยทำอาหารอยู่ในครัวนั้น ก็ยังไม่ลืมเมนูกุ้งเผา จึงพูดขึ้นว่า “ถ้าได้กินกุ้งเผาสดๆ ตัวแดงๆ ก็คงจะดีนะ” คุณเพ็ญนภาซึ่งถูกรบเร้าอย่างนี้อยู่พักใหญ่ จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คุณอุเทนเองก็คาดไม่ถึง “เตาแก๊สกำลังแดงๆ ร้อนๆ เขาก็คว้ามือผมทิ่มพรวดเข้าไปเลย แล้วก็บอกว่า ดูสิแค่เอามือมาอิงไฟแป๊บเดียวยังเจ็บขนาดนี้ แล้วกุ้งที่ยังเป็นๆ อยู่ มันจะเจ็บขนาดไหน” คุณอุเทนบอกเล่าถึงบทเรียนสำคัญที่ได้เรียนรู้จากคุณเพ็ญนภา แม้จะทั้งเจ็บปวดและโมโหภรรยาไม่น้อย แต่ความเจ็บปวดที่ได้สัมผัสด้วยตนเองในวันนั้น ก็ทำให้คุณอุเทนเข้าใจความรู้สึกของสัตว์ต่างๆ นานาที่ถูกพรากชีวิต เพื่อนำมาเป็นอาหารของมนุษย์มากยิ่งขึ้น

20200516-258-bylek

 

เปิดใจกว้าง ยอมรับการกินมังสวิรัติ

ความทุ่มเทในการบอกต่อข้อดีของการกินมังสวิรัติ และแบ่งปันแนวคิดการเคารพชีวิตของคุณเพ็ญนภา ทำให้คุณอุเทนค่อยๆ เปิดใจ หลังจากเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งปี ในที่สุดความพยายามของคุณเพ็ญนภาก็เริ่มเห็นผล

ปลายปี 2555 ครอบครัวของคุณเพ็ญนภา ตั้งใจจะทำบุญทอดกฐิน ดังนั้นในช่วงเข้าพรรษา คุณอุเทนจึงตั้งปณิธานว่า จะละเว้นจากการรับประทานเนื้อสัตว์ เพื่อให้เกิดมหากุศล “ตอนนั้นสามีตั้งใจว่าจะงดกินเนื้อสัตว์สามเดือน ในระยะเวลาสามเดือนนี้ เราก็ตั้งใจทำอาหารดีๆ ให้ พยายามโน้มน้าวให้เขากินมังสวิรัติต่อไปให้ได้ค่ะ” คุณเพ็ญนภาย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสุข

จากการดูแลเรื่องอาหารเป็นอย่างดีของคุณเพ็ญนภา ทำให้คุณอุเทนสามารถงดรับประทานเนื้อสัตว์ได้ครบสามเดือนตามที่ตั้งใจไว้ และยังงดเนื้อสัตว์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน คุณอุเทนกล่าวว่า สำหรับตนเองการรับประทานมังสวิรัติ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เมื่อไรที่เกิดอยากจะกินเนื้อสัตว์ขึ้นมา ก็ต้องพยายามหักห้ามจิตใจ บางครั้งที่ไปตลาด เมื่อเห็นกับข้าวเนื้อสัตว์ที่เคยโปรดปราน ก็ต้องพยายามบอกกับตัวเองว่า “ไม่อร่อย เคยกินมามากแล้ว ไม่อร่อยๆ” ย้ำคิดอยู่ในใจเช่นนี้ จนถึงขั้นเผลอหลุดปากพูดออกมาเสียงดังโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ในที่สุดคุณอุเทนก็สามารถฝ่าฟันช่วงเวลานั้นมาได้ โดยมีคุณเพ็ญนภาคอยดูแลและให้กำลังใจ จนคุณอุเทนสามารถงดรับประทานเนื้อสัตว์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

เมื่อสามีเปิดใจกว้างและหันมารับประทานมังสวิรัติในที่สุด คุณเพ็ญนภาจึงมีความสุขมากยิ่งขึ้น ทุกวันจะทำน้ำคลอโรฟิลล์ส่งขายเล็กน้อยในโพธาราม ดูแลงานบ้านไม่ขาดตกบกพร่อง นอกจากจะให้ความสำคัญกับงานจิตอาสาฉือจี้ ช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากแล้ว ก็ไม่ลืมใส่ใจคนในครอบครัว ปัจจุบันคุณอุเทนได้เกษียณอายุราชการ ทั้งคู่จึงมีเวลาไปทำบุญร่วมกันที่วัดบ่อยๆ จากที่เคยถวายภัตตาหารด้วยเมนูเนื้อสัตว์ ทุกวันนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นการถวายด้วยอาหารมังสวิรัติ ออกจากบ้านทุกครั้ง ก็ไม่ลืมเตรียมปิ่นโตอาหารมังสวิรัติสำหรับมื้อกลางวันมาด้วย ทั้งสะดวกและยังได้เชิญชวนให้เพื่อนๆ หันมารับประทานมังสวิรัติร่วมกัน “เราจะคุยแบ่งปันกับเพื่อนๆ ให้เขาได้ลองชิมและค่อยๆ ชวนให้ลองหันมากินมังสวิรัติในวันพระ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เดือนจะครั้งหรือปีละครั้งก็ได้ค่ะ” คุณเพ็ญนภาบอกเล่าถึงวิธีการเชิญชวนผู้คนมาร่วมรับประทานมังสวิรัติ

20140723-18-bydatchanee

 

ประหยัดรายจ่าย ฟูมฟักเมตตาจิต

“เราไม่รู้ตัวว่าเราเปลี่ยนแปลง แต่คนที่รู้คือภรรยา เขาบอกว่าเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น คือ อารมณ์เย็นลงและใจดีขึ้น” เพราะการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือการฟูมฟักเมตตาจิต เมื่อจิตมีเมตตา การกระทำย่อมอ่อนโยนตาม คุณอุเทนบอกเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเอง หลังจากที่หันมารับประทานมังสวิรัติ ส่วนคุณเพ็ญนภาก็แบ่งปันถึงการรับประทานอาหารมังสวิรัติว่า นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย เพราะจะลดการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ โดยยืนยันได้จากการวิจัยด้านภาวะโลกร้อน ซึ่งพบว่าการทำปศุสัตว์ในปัจจุบันคือ สาเหตุหลักของการเกิดก๊าซเรือนกระจกอันดับที่ 5 และการผลิตเนื้อสัตว์นั้นมีผลกระทบอย่างยิ่งกับสิ่งแวดล้อม ส่วนประโยชน์ที่เห็นได้โดยตรงในการดำเนินชีวิตประจำวันของครอบครัวคือ ช่วยประหยัดค่าอาหารได้เป็นอย่างมาก คุณเพ็ญนภากล่าวว่า “อาหารมังสวิรัติจะราคาถูกกว่าค่ะ ไม่เหมือนเนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่กิโลกรัมละ 130-140 บาท แต่พวกอาหารมังสวิรัติ เราใช้เห็ดกิโลกรัมละ 40 บาท หรือโปรตีนเกษตร 30 บาท ก็สามารถทำอาหารได้หลายวันเลยค่ะ”

คุณเพ็ญนภา เข้ารับรองวุฒิเป็นกรรมการฉือจี้เมื่อปลายปี 2556 ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ขวางกั้น ใช้ความเพียรพยายามบ่มเพาะจิตใจตนเอง จนสามารถส่งผลกระทบสู่คนรอบข้างได้ ส่วนคุณอุเทนก็เข้ารับรองวุฒิเป็นสัตยบุรุษฉือจี้เมื่อปี 2559 สองสามีภรรยาจึงเดินบนเส้นทางสายจิตอาสาฉือจี้ร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นพากเพียร

20200517-047-byjanyaporn

 


   เรื่อง  ดรรชนี สุระเทพ      ภาพ  จรรยพร เข้มแข็ง, ดรรชนี สุระเทพ, พิณญ์ธิชา จันทร์สุขศรี